Adobe ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยที่สำคัญ เพื่อแก้ไขช่องโหว่ระดับความรุนแรง High ทั้งหมด 3 รายการ (CVE-2025-30324, CVE-2025-30325, CVE-2025-30326) ใน Photoshop 2024 และ 2025 ซึ่งสามารถทำให้ผู้ไม่หวังดีรันได้โค้ดตามที่ต้องการบนระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS
ช่องโหว่เหล่านี้ถูกพบโดยนักวิจัยจากภายนอกชื่อ yjdfy ผ่านโปรแกรม bug bounty บนแพลตฟอร์ม HackerOne ของ Adobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้าน Memory Corruption ที่เกิดจากการจัดการ integer และการเข้าถึง Pointer ที่ยังไม่ได้ถูกกำหนดค่า
แม้ยังไม่พบการโจมตีโดยใช้ช่องโหว่นี้ในทางปฏิบัติ แต่แพตช์ที่ออกเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ได้ลดความเสี่ยงจากรูปแบบการโจมตีที่ต้องมีการโต้ตอบของผู้ใช้งานผ่านการเปิดไฟล์ที่เป็นอันตราย
ช่องโหว่เหล่านี้มีศูนย์กลางอยู่ที่การจัดการหน่วยความจำที่ไม่เหมาะสมขณะประมวลผลไฟล์ภาพ
CVE-2025-30324 เกี่ยวข้องกับ error ด้าน Integer Underflow/Wraparound ใน layer compositing engine ของ Photoshop โดยเกิดขึ้นเมื่อค่าที่มากกว่าถูกลบออกจากค่าที่น้อยกว่า ซึ่งเป็นตัวเลขแบบ Unsigned ส่งผลให้เกิดตำแหน่งหน่วยความจำที่ไม่ถูกต้อง
ผู้ไม่หวังดีอาจใช้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ด้วยการสร้างไฟล์ .PSD แบบพิเศษเพื่อจะทริกเกอร์เงื่อนไข Buffer Underwrite ซึ่งส่งผลให้พื้นที่หน่วยความจำใกล้เคียงเกิด corrupt
CVE-2025-30325 เกิดจากช่องโหว่ Integer Overflow ในโมดูลแปลงค่าสีแบบ CMYK โดยเมื่อมีการใช้ Color Profile ที่ถูกออกแบบพิเศษให้เกินขีดจำกัดของตัวเลข 32 บิต ระหว่างการคำนวณพิกเซล จะทำให้เกิด Heap Buffer Overflow
ทั้งสองช่องโหว่ได้รับคะแนน CVSSv3.1 ที่ 7.8 เนื่องจากเป็นการโจมตีแบบ local ที่ต้องอาศัยการเปิดไฟล์อันตรายโดยผู้ใช้งาน
ช่องโหว่ที่สาม CVE-2025-30326 เกี่ยวข้องกับการจัดการ Metadata Tag แบบเก่าในไฟล์ TIFF ของ Photoshop
การกำหนดค่า Pointer ที่ไม่เหมาะสมในระหว่างการอ่านข้อมูล Exif จาก Header ที่ถูกแก้ไข อาจทำให้ Pointer ไปอ้างอิงตำแหน่งหน่วยความจำที่ผู้ไม่หวังดีควบคุมได้
ประกาศของ Adobe ระบุว่าทั้งสามช่องโหว่สามารถนำไปสู่การรันโค้ดตามที่ต้องการในระดับสิทธิ์ของผู้ใช้งานที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเนื่องจาก Photoshop จะทำงานด้วยสิทธิ์ที่สูง
การติดตั้งแพตช์ และการลดผลกระทบ
เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Photoshop 2025 (26.5 และเวอร์ชันก่อนหน้า) และ Photoshop 2024 (25.12.2 และเวอร์ชันก่อนหน้า) ทั้งบน Windows และ macOS
การอัปเดตเวอร์ชัน 26.6 สำหรับ Photoshop 2025 และ 25.12.3 สำหรับ Photoshop 2024 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบขอบเขตในกระบวนการ Raster และเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบ Pointer
ผู้ใช้งาน Creative Cloud จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติผ่านบริการ Desktop App’s Background แต่ผู้ดูแลระบบต้องอนุมัติการติดตั้งแพตช์ด้วยตนเองในสภาพแวดล้อมที่มีการจัดการผ่าน Admin Console
องค์กรควรให้ความสำคัญกับการทดสอบความเข้ากันของแพตช์กับปลั๊กอินของ Third-party เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหน่วยความจำอาจส่งผลกระทบต่อ extension รุ่นเก่า
การลดผลกระทบชั่วคราวสำหรับระบบที่ยังไม่ได้ติดตั้งแพตช์ คือการกำหนด Group Policy (สำหรับ Windows) หรือโปรไฟล์ MDM (สำหรับ macOS) เพื่อจำกัดการเปิดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือใน Photoshop
อย่างไรก็ตาม Adobe เน้นย้ำว่าแนวทางเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของซอฟต์แวร์ และไม่ควรใช้โดยไม่มีการติดตั้งแพตช์ถาวร
ผลกระทบต่อผู้ใช้งานในสายงานด้าน Creative
ช่องโหว่เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่องในการรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์กราฟิกที่มีความซับซ้อนต่อการโจมตีผ่านไฟล์
แม้ว่า Adobe จะมีรางวัลสูงสุดถึง $250,000 สำหรับการรายงานช่องโหว่ระดับ Critical แต่การที่ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยเพียงคนเดียวอาจแสดงให้เห็นถึงช่องโหว่ในการตรวจสอบโค้ดสำหรับช่องโหว่ประเภท Memory Corruption
ทีม PSIRT ของบริษัทได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทดสอบ fuzzing ใน image codec ตั้งแต่ปี 2023 แต่กรณีเฉพาะในไฟล์ฟอร์แมตเก่ายังคงเป็นปัญหา
สำหรับผู้ใช้งาน การอัปเดตครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการ Software Lifecycle โดยองค์กรที่ยังใช้ Photoshop 2024 ต้องพิจารณาความเร่งด่วนในการอัปเกรดเทียบกับความเสี่ยงต่อการกระทบกับขั้นตอนการทำงาน
นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยแนะนำให้ใช้ Sandbox กับซอฟต์แวร์กราฟิกผ่านเทคนิค Virtualization หรือ Containerization โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนไฟล์จากภายนอก
การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสของ Adobe ยังคงแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นด้านความรับผิดชอบของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีการออกแพตช์ภายใน 90 วันหลังจากนักวิจัยรายงานช่องโหว่
เนื่องจากการโจมตีผ่านไฟล์เริ่มมุ่งเป้าไปยังอุตสาหกรรม Creative มากขึ้น เหตุการณ์นี้จึงแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการแบ่งปันข่าวกรองภัยคุกคามเฉพาะกลุ่มผ่านแพลตฟอร์มอย่างเครือข่าย AIS ของ CISA
การอัปเดตนี้ถือเป็นแพตช์ความปลอดภัยที่สำคัญครั้งที่ 4 ของ Photoshop ในปี 2025 สะท้อนถึงความเข้มข้นของการวิจัยด้านความปลอดภัย และ Attack Surface ที่เพิ่มขึ้นจากฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ผู้ใช้งานควรตรวจสอบสถานะการอัปเดตของ Creative Cloud ทันที และตรวจสอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประมวลผลไฟล์ล่าสุดเพื่อหาความผิดปกติ
แม้ว่ามาตรการปัจจุบันจะลดโอกาสการถูกโจมตีได้ แต่ความซับซ้อนทางเทคนิคของช่องโหว่ด้าน Memory Corruption ทำให้ยังคงมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ที่มา : gbhackers