Unsecured Adobe Server Exposes Data for 7.5 Million Creative Cloud Users

บริษัทซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ของสหรัฐอเมริกาชื่อ Adobe ประสบปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งาน จากบริการ Creative Cloud ที่เป็นนิยมในตอนนี้ ด้วยจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการประมาณ 15 ล้านคน

Adobe Creative Cloud หรือ Adobe CC เป็นการบริการให้สมาชิกสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ของ Adobe ได้โดยการเช่า เช่น Photoshop, Illustrator, Premiere Pro, InDesign, Lightroom และอีกมากมาย

เมื่อต้นเดือนนี้ Bob Diachenko นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ร่วมมือกับบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Comparitech ค้นพบฐานข้อมูล Elasticsearch ที่ไม่มีการตั้งรหัสผ่านของบริการ Adobe Creative Cloud ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือผ่านการตรวจสอบ

ข้อมูลที่เปิดเผยจากฐานข้อมูลซึ่งขณะนี้มีข้อมูลส่วนตัวของบัญชีผู้ใช้งาน Adobe Creative Cloud อยู่เกือบ 7.5 ล้านบัญชี ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยจากบริการ Creative Cloud ได้แก่ ที่อยู่อีเมล วันที่สมัครสมาชิก ผลิตภัณฑ์ Adobe ที่สมัครเป็นสมาชิก สถานะการสมัครสมาชิก สถานะการชำระเงิน รหัสสมาชิก ประเทศ เวลาการเข้าสู่ระบบล่าสุด และสมาชิกดังกล่าวเป็นพนักงานของ Adobe หรือไม่

ไม่มีข้อมูลทางการเงินรั่วไหล แต่จากข้อมูลที่รั่วไหลออกมา สามารถนำข้อมูลผู้ใช้งาน Adobe Creative Cloud ไปทำอีเมลฟิชชิงเพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานได้ Comparitech กล่าวในบล็อกโพสต์" อาชญากรไซเบอร์อาจทำตัวเหมือน Adobe หรือ บริษัท ที่เกี่ยวข้องและหลอกให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเช่น รหัสผ่านส่วนตัว

Diachenko ที่ค้นพบฐานข้อมูลที่รั่วไหลแจ้งให้ Adobe ทราบทันทีในวันที่ 19 ตุลาคม

บริษัท Adobe ได้มีมาตรการการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยปิดการเข้าถึงฐานข้อมูลที่เป็นสาธารณะในวันเดียวกัน ตามรายงานของบล็อกที่เผยแพร่โดย Adobe ในวันศุกร์

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว Adobe ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่เกิดขึ้นจากข้อผิดพลาด ได้มีการปิดระบบที่ที่มีการทำงานที่ผิดพลาดโดยทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ที่เกิดขึ้น

ปัญหานี้ไม่มีส่งผลกระทบต่อการทำงานของผลิตภัณฑ์หรือบริการหลักของ Adobe แต่อย่างใดแต่ทาง Adobe ได้มีการตรวจสอบกระบวนการพัฒนา เพื่อช่วยป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำ

ผู้ใช้ส่วนใหญ่ควรระวังอีเมลที่เป็นฟิชชิ่ง ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไปที่อาชญากรไซเบอร์ทำหลังจากได้ข้อมูลข้องผู้ใช้งาน เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวเช่นรหัสผ่านและข้อมูลทางการเงิน

แม้ว่าฐานข้อมูลจะไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินใดๆ แต่ก็เป็นความคิดที่ดีที่ผู้ใช้งานควรจะระมัดระวังและคอยสังเกตการณ์ธนาคารของคุณและใบแจ้งยอดการชำระเงินการทำกิจกรรมทางการเงิน หากพบสิ่งที่ผิดปกติควรรีบแจ้งไปยังธนาคารทันที

Adobe ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานเปิดการใช้งาน two-factor authentication เพื่อช่วยรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ที่มา thehackernews

Adobe Breach Impacted At Least 38 Million Users

จากกรณีที่ Adobe ถูกแฮก ข้อมูลของผู้ใช้บางส่วนและซอร์สโค้ดของโปรแกรมถูกขโมย เมื่อต้นเดือนตุลาคม ในตอนแรก Adobe ระบุว่าน่าจะกระทบกับผู้ใช้ประมาณ 2.9 ล้านบัญชี แต่ข้อมูลใหม่ล่าสุดหลังการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ทาง Adobe ได้ส่งอีเมลให้ผู้ใช้ทำการเปลี่ยนรหัสผ่านจำนวนทั้งสิ้น 38 ล้านบัญชี

ล่าสุดมีรายงานว่าไฟล์บัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้ (ที่เข้ารหัสแบบ hash) ถูกปล่อยออกมาบนอินเทอร์เน็ตแล้ว ไฟล์นี้มีขนาด 3.8 GB และมีข้อมูลของผู้ใช้กว่า 150 ล้านบัญชี แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นไฟล์จริงหรือไม่ และเป็นบัญชีที่ถูกใช้งานมากน้อยแค่ไหน

ทาง Adobe ออกมาแถลงข่าวว่าได้ติดต่อกับผู้ใช้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบให้ทำการรีเซ็ตรหัสผ่านทั้งหมดแล้ว และขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รายอื่นเข้ามารีเซ็ตรหัสผ่านโดยด่วน

นอกจากปัญหาเรื่องข้อมูลของผู้ใช้แล้ว การแฮกดังกล่าวยังขโมยซอร์สโค้ดซอฟต์แวร์ของ Adobe ออกไปได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งซอฟต์แวร์ที่สามารถขโมยไปได้คือ Acrobat, Adobe Reader, ColdFusion และมีคนอ้างว่าได้ซอร์สโค้ดของ Photoshop ไปด้วย

ที่มา : krebsonsecurity