Google Chrome เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านที่ถูกละเมิดโดยอัตโนมัติผ่านระบบจัดการรหัสผ่านในตัวแล้ว

Google ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งช่วยให้ built-in Password Manager สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าข้อมูล credentials ถูก compromised

Ashima Arora, Chirag Desai และ Eiji Kitamura จาก Google รายงานว่า "เมื่อ Chrome ตรวจพบรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ถูกนำมาใช้ในระหว่างการลงชื่อเข้าใช้ Google Password Manager จะมีการแจ้งให้ผู้ใช้ให้เลือกวิธีแก้ไขโดยอัตโนมัติ รวมถึงสามารถสร้างรหัสผ่านใหม่ที่คาดเดาได้ยาก และอัปเดตรหัสผ่านให้กับผู้ใช้โดยอัตโนมัติบนเว็บไซต์ที่รองรับบน Chrome

ฟีเจอร์นี้พัฒนาขึ้นจากความสามารถเดิมของ Password Manager เพื่อสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยระหว่างการลงทะเบียน และทำการแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อตรวจสอบพบว่ารหัสผ่าน หรือข้อมูลถูกละเมิด

Google ระบุว่า เป้าหมายของฟีเจอร์การเปลี่ยนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดความยุ่งยาก และช่วยให้ผู้ใช้สามารถรักษาความปลอดภัยของบัญชีได้โดยไม่ต้องค้นหาการตั้งค่าบัญชีที่เกี่ยวข้อง หรือหยุดไประหว่างดำเนินการ

เจ้าของบัญชีสามารถดำเนินการเพื่อใช้ฟีเจอร์ได้โดยวิธีดังต่อไปนี้

ใช้ autocomplete="current-password" และ autocomplete="new-password" เพื่อเรียกใช้ autofill และ storage
ตั้งค่าเปลี่ยนเส้นทาง จาก <your-website-domain>/.well-known/change-password ไปยังหน้าฟอร์มเปลี่ยนรหัสผ่านของเว็บไซต์

Kitamura ระบุเพิ่มเติมว่า มันจะง่ายกว่ามากหากระบบจัดการรหัสผ่านสามารถนำทางผู้ใช้ไปยังหน้าสำหรับ change-password URL ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการมี well-known URL สำหรับการเปลี่ยนรหัสผ่านจึงเป็นประโยชน์

การกำหนด well-known URL สำหรับเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปที่หน้าสำหรับเปลี่ยนรหัสผ่าน เว็บไซต์จึงสามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังระบบที่ถูกต้องสำหรับการเปลี่ยนรหัสผ่านได้อย่างง่ายดาย

ฟีเจอร์นี้เปิดตัวในขณะที่หลายบริษัทกำลังเปลี่ยนไปใช้ Passkeys มากขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการป้องกันบัญชีจากการโจมตีที่อาจเข้าควบคุมบัญชีได้ โดย Microsoft ระบุเมื่อต้นเดือนนี้ว่าได้ทำให้ Passkey เป็นวิธีเริ่มต้นสำหรับการสมัครบัญชีผู้ใช้ใหม่

 

ที่มา : thehackernews.

Google Chrome และ Firefox ออกแพตซ์อัปเดตช่องโหว่ระดับความรุนแรงสูง

Google และ Mozilla ประกาศออกแพตช์อัปเดตด้านความปลอดภัยใหม่สำหรับ Chrome เวอร์ชัน 133 และ Firefox เวอร์ชัน 135 ในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่มีระดับความรุนแรงสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำใน Browser

การอัปเดต Chrome ล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินการบน Windows, macOS, และ Linux พร้อมแพตช์สำหรับช่องโหว่ระดับความรุนแรงสูงสองรายการ และระดับความรุนแรงปานกลางหนึ่งรายการ ซึ่งทั้งหมดถูกรายงานจากนักวิจัยภายนอกองค์กร

รายการแรกคือ CVE-2025-0999 ซึ่งเป็นช่องโหว่ Heap buffer overflow ใน JavaScript Engine V8 ที่อาจถูกใช้เพื่อดำเนินการรันโค้ดที่เป็นอันตรายจากระยะไกล (Remote Code Execution - RCE) โดยทาง Google ระบุว่า ได้มอบรางวัลสำหรับผู้ที่ค้นพบช่องโหว่ (Bug Bounty Reward) ซึ่งมีมูลค่ากว่า 11,000 ดอลลาร์สำหรับช่องโหว่นี้

โดยช่องโหว่ด้านความปลอดภัยรายการที่สอง ซึ่งมีหมายเลข CVE-2025-1426 เป็นช่องโหว่ Heap buffer overflow ใน GPU component ของ Chrome โดยขณะนี้ Google ยังไม่ได้กำหนดจำนวนเงินรางวัลสำหรับช่องโหว่นี้

การอัปเดตล่าสุดของ Chrome รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ use-after-free ระดับความรุนแรงปานกลางใน Network component ซึ่ง Google ได้มอบรางวัลสำหรับผู้ที่ค้นพบช่องโหว่ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4,000 ดอลลาร์สำหรับช่องโหว่นี้

Google ปฏิเสธในส่วนของการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงรายละเอียดเชิงลึกของช่องโหว่ดังกล่าว และไม่ได้มีการระบุถึงเหตุการณ์ที่ช่องโหว่เหล่านี้ถูกนำไปใช้งาน ซึ่งเป็นไปตามปกติของโครงการฯ (Bug Bounty Programme)

Chrome เวอร์ชันล่าสุดที่อยู่ระหว่างอัปเดตคือเวอร์ชัน 133.0.6943.126/.127 สำหรับ Windows และ macOS รวมถึงเวอร์ชัน 133.0.6943.126 สำหรับ Linux

ในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 Mozilla ประกาศแพตซ์อัปเดต Firefox เวอร์ชัน 135.0.1 พร้อมการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำที่มีระดับความรุนแรงสูง ซึ่งมีหมายเลข CVE-2025-1414 โดยมีการแจ้งเตือนเพิ่มเติมว่าช่องโหว่ดังกล่าวอาจนำไปสู่การดำเนินการรันโค้ดที่เป็นอันตราย (Code Execution) ได้

Mozilla ระบุว่า “มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำ ใน Firefox เวอร์ชัน 135 โดยที่บางช่องโหว่เหล่านี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายในหน่วยความจำ (Memory Corruption) และทางบริษัทเชื่อว่า หากผู้ไม่หวังดีมีความพยายามเพียงพอ ช่องโหว่บางรายการเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อรันโค้ดที่เป็นอันตรายตามที่แฮ็กเกอร์ต้องการได้”

คำแนะนำ ผู้ใช้งานควรอัปเดต Browser Chrome และ Firefox ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดโดยเร็วที่สุด

ที่มา : securityweek.

พบข้อมูลว่าแฮ็กเกอร์สามารถโจมตี Extensions ของ Google Chrome ได้กว่า 35 รายการ

มีรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับแคมเปญฟิชชิงที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้พัฒนา extension ของเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งนำไปสู่การถูกเจาะข้อมูลของ extension อย่างน้อย 35 รายการ เพื่อแทรกโค้ดที่ใช้สำหรับขโมยข้อมูลไว้ ซึ่งรวมถึง extension จากบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง Cyberhaven ด้วย (more…)

เครื่องมือใหม่ที่สามารถ bypass ระบบการเข้ารหัสคุกกี้ของ Google Chrome ได้

นักวิจัยได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่สามารถ bypass ระบบป้องกันการโจรกรรมคุกกี้การเข้ารหัสแบบ App-Bound ของ Google และสามารถดึงข้อมูล credentials ที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ออกไปได้

เครื่องมือนี้มีชื่อว่า ‘Chrome-App-Bound-Encryption-Decryption’ ได้รับการเผยแพร่โดย Alexander Hagenah นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากที่เขาสังเกตเห็นว่านักวิจัยคนอื่น ๆ กำลังคิดค้นวิธีหลบเลี่ยงแบบเดียวกันนี้ได้แล้ว (more…)

Google Chrome แนะนำฟีเจอร์ One-Time Permissions และ Enhanced Safety Check ในการท่องเว็บไซต์ให้ปลอดภัยมากขึ้น

Google ประกาศว่าจะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้มากขึ้นในขณะที่กำลังท่องอินเทอร์เน็ตอยู่ และป้องกันภัยคุกคามออนไลน์ได้

โดยทาง Google ระบุว่า Chrome เวอร์ชันล่าสุดสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Safety Check ที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว ซึ่งสามารถเลือกที่จะไม่รับการแจ้งเตือนเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการได้ง่ายขึ้น และสามารถเลือกให้สิทธิ์การเข้าถึงกับบางเว็บไซต์ได้ครั้งเดียวเท่านั้น

(more…)

เปิดเผยการโจมตีของ Atomic Stealer (AMOS) และการเพิ่มขึ้นของ Dead Cookies Restoration

เปิดเผยการโจมตีของ Atomic Stealer (AMOS) และการเพิ่มขึ้นของ Dead Cookies Restoration

Cyble Research and Intelligence Labs (CRIL) พบว่ามีการแพร่กระจายเวอร์ชันอัปเดตของ AMOS Stealer ผ่านเว็บไซต์ปลอม โดยปลอมเป็นแอปพลิเคชันบน Mac เช่น arallels Desktop, CleanMyMac, Arc Browser และ Pixelmator

(more…)

Google Chrome เพิ่มฟีเจอร์ background scans สำหรับรหัสผ่านที่รั่วไหล [EndUser]

Google ประกาศว่าฟีเจอร์ Chrome Safety Check จะทำงานเบื้องหลังเพื่อตรวจสอบว่ารหัสผ่านที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์นั้นรั่วไหลหรือไม่

Chrome จะแจ้งเตือนผู้ใช้บนเดสก์ท็อป หากพบว่ามีการใช้ Extensions ที่ถูกระบุว่าอันตราย (ถูกถอดจาก Chrome Web Store), แนะนำ Chrome เวอร์ชันล่าสุด รวมถึงเปิดใช้งาน Safe Browsing เพื่อบล็อกเว็บไซต์ในรายการเว็บไซต์ที่อาจไม่ปลอดภัยของ Google

Sabine Borsay - Product Manager ของ Chrome Group ระบุว่า "Safety Check สำหรับ Chrome บนเดสก์ท็อปจะทำงานอัตโนมัติในเบื้องหลัง การแจ้งเตือนเหล่านี้จะปรากฏในเมนู three-dot เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการต่อได้ (more…)

Google Chrome ออกฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อพบ extensions ที่เป็นมัลแวร์

Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Google Chrome ซึ่งจะเตือนผู้ใช้ เมื่อ Google มีการลบ extensions ที่มีผู้ใช้งานติดตั้งออกจาก Chrome Web Store ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า extensions นั้นอาจจะเป็นมัลแวร์

Extensions เหล่านี้มักถูกใช้เพื่อแทรกโฆษณาโดยการโปรโมตผ่านทาง popup ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการติดตามประวัติการค้นหา, redirect traffic ไปยังเว็ปไซต์อื่น ๆ หรืออาจจะขโมยข้อมูลบัญชี Gmail, บัญชี Facebook เป็นต้น (more…)

Chrome ออกแพตช์ Update ของ browser เวอร์ชัน 113 แก้ไขช่องโหว่ระดับ Critical

ในสัปดาห์นี้ Google ประกาศอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Chrome browser เวอร์ชัน ** 113 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 12 รายการ ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่อยู่ในระดับ Critical 6 รายการ

โดยช่องโหว่ 1 รายการ ที่ถูกรายงานโดยนักวิจัยภายนอกมีหมายเลข CVE-2023-2721 รายงานโดย Guang Gong นักวิจัยจาก Qihoo 360 ซึ่งระบุว่าช่องโหว่ดังกล่าวเป็นช่องโหว่ use-after-free ใน Navigation ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างเพจ HTML ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเพจเพื่อส่งผลให้เกิด heap corruption จากช่องโหว่ดังกล่าว

ช่องโหว่ Use-after-free คือช่องโหว่ของหน่วยความจำ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ pointer ไม่ถูกเคลียร์ภายหลังจากการจัดสรรหน่วยความจำ ซึ่งอาจนำไปสู่การสั่งรันโค้ดที่เป็นอันตราย, การปฏิเสธการให้บริการ (denial-of-service) หรือการทำให้ข้อมูลเสียหายได้ โดยใน Chrome ปัญหาของ use-after-free นั้นสามารถถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อเจาะผ่าน browser sandbox ได้

การอัปเดตล่าสุดของ Chrome ได้แก้ไขปัญหาของ use-after-free ซึ่งเป็นช่องโหว่ 3 รายการที่มีการรายงานจากนักวิจัยภายนอก และช่องโหว่ทั้งหมดมีระดับความรุนแรงสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Autofill UI, DevTools และ Guest View components ของเบราว์เซอร์

เบราเซอร์เวอร์ชันใหม่ยังแก้ไข confusion bug ระดับความรุนแรงสูงใน V8 JavaScript engine และช่องโหว่ระดับความรุนแรงปานกลางใน WebApp Installs

โดย Chrome เวอร์ชันล่าสุดคือ 113.0.5672.126 สำหรับ macOS และ Linux และเวอร์ชัน 113.0.5672.126/.127 สำหรับ Windows

ที่มา : securityweek

Google Chrome ออกอัปเดตเร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ zero-day ที่กำลังถูกใช้ในการโจมตี เป็นครั้งที่สองของปี 2023 [EndUser]

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Google ได้ออกแพตซ์อัปเดตด้านความปลอดภัยเร่งด่วนสำหรับ Chrome เพื่อแก้ไขช่องโหว่ zero-day ครั้งที่สองที่กำลังถูกใช้ในการโจมตีในปีนี้

Google ได้แก้ไขช่องโหว่ที่มีระดับความรุนแรงสูง (CVE-2023-2136) ที่กำลังถูกนำไปใช้ในการโจมตี โดยการปล่อยแพตซ์อัปเดตด้านความปลอดภัยสำหรับเว็บเบราว์เซอร์ Chrome (เวอร์ชัน 112.0.5615.137) โดยอัปเดตนี้แก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 8 รายการ โดย Google ได้มีการออกแพตซ์อัปเดตสำหรับผู้ใช้งาน Windows และ Mac แต่ในส่วนของเวอร์ชัน Linux จะมีออกแพตซ์อัปเดตในภายหลัง (more…)