Adobe ออกแพตซ์อัปเดต เพื่อแก้ไขปัญหาการ bypass สําหรับช่องโหว่ ColdFusion CVE-2023-29298

Adobe ออกแพตซ์อัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ColdFusion รวมถึงการโจมตี zero-day แบบใหม่ โดยมีการแก้ไขช่องโหว่ 3 รายการ ดังนี้ :

CVE-2023-38204 (คะแนน CVSS 9.8/10 ความรุนแรงระดับ Critical) เป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันโค้ดที่เป็นอันตรายจากระยะไกล (RCE) แต่ยังไม่พบการโจมตีจากช่องโหว่นี้
CVE-2023-38205 (คะแนน CVSS 7.8/10 ความรุนแรงระดับ High) เป็นช่องโหว่การควบคุมการเข้าถึงที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในการโจมตีแบบ limited attacks targeting ไปที่ Adobe ColdFusion
CVE-2023-38206 (คะแนน CVSS 5.3/10 ความรุนแรงระดับปานกลาง) เป็นช่องโหว่การควบคุมการเข้าถึงที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่การ bypass ความปลอดภัย

โดยช่องโหว่ CVE-2023-38205 จะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เก่า CVE-2023-29298 โดยช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยจาก Rapid7 Stephen Fewer ในวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2023

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2023 Rapid7 พบผู้โจมตีที่ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ CVE-2023-29298 และ CVE-2023-29300/CVE-2023-38203 เพื่อสร้างช่องโหว่เว็ปเชลล์บนเซิร์ฟเวอร์ ColdFusion ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถสั่งรันโค้ดที่เป็นอันตรายจากระยะไกลได้

นักวิจัยจาก Rapid7 ระบุว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา การแพตซ์อัปเดตของ Adobe สำหรับช่องโหว่ CVE-2023-29298 นั้นยังไม่สมบูรณ์ และอาจถูกผู้โจมตีใช้เพื่อ bypass การป้องกันได้ โดยทาง Rapid7 ได้แจ้งให้ Adobe ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม Adobe ได้ออกมายืนยันว่าการแก้ไขช่องโหว่ CVE-2023-29298 จะถูกรวมอยู่ในแพตซ์ APSB23-47 ของช่องโหว่ CVE-2023-38205 และเนื่องจากช่องโหว่นี้กำลังถูกใช้ในการโจมตีเพื่อเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ ColdFusion จึงขอแนะนำให้ผู้ดูแลระบบติดตั้งแพตซ์อัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่โดยเร็วที่สุด

ที่มา : bleepingcomputer

Adobe ออกเเพตซ์เเก้ไขช่องโหว่หลายรายการในผลิตภัณฑ์ของ Adobe

Adobe ออกเเพตซ์เเก้ไขช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ Creative Cloud, Media Encoder, Genuine Service, ColdFusion และ Download Manager products โดยช่องโหว่ที่สำคัญมีดังนี้

ช่องโหว่บน Adobe Download Manager ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2020-9688 ช่องโหว่เป็นประเภท Command injection ทำให้ผู้โจมตีสามรถเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้มีผลกับ Adobe Download Manager เวอร์ชั่น 2.0.0.518 สำหรับ Windows
ช่องโหว่บน Adobe ColdFusion ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2020-9672, CVE-2020-9673 ช่องโหว่เป็นประเภท DLL search-order hijacking ทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธ์ได้ ช่องโหว่นี้มีผลกับ ColdFusion เวอร์ชั่นต่ำกว่า 2016 และ ColdFusion เวอร์ชั่นต่ำกว่า 2018
ช่องโหว่บน Adobe Genuine Service ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2020-9667, CVE-2020-9681 และ CVE-2020-9668 ช่องโหว่เป็นประเภท Insecure library loading และ Mishandling symbolic links ทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธ์ได้ ช่องโหว่นี้มีผลกับ Adobe Genuine Service เวอร์ชั่นก่อนหน้า 6.6 หรือเวอร์ชั่นก่อนหน้า สำหรับ Windows และ   macOS
ช่องโหว่บน Adobe Media Encoder ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2020-9649, CVE-2020-9650 และ CVE-2020-9646 ช่องโหว่เป็นประเภท Out-of-bound read และ Out-of-bound write ทำให้ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อมูลและเขียนรันคำสั่งได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้มีผลกับ Adobe Media Encoder เวอร์ชั่น 14.2 สำหรับ Windows
ช่องโหว่บน Adobe Creative Cloud Desktop Application ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2020-9669, CVE-2020-9671, CVE-2020-9670 และ CVE-2020-9682 ช่องโหว่เป็นประเภท Lack of exploit mitigation, Insecure file permission และ Symlink vulnerability ทำให้ผู้โจมตีสามารถสามารถยกระดับสิทธ์ผู้ใช้และสามารถเขียน file system ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้มีผลกับ Creative Cloud Desktop Application วอร์ชั่นก่อนหน้า 5.1 สำหรับ Windows

ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรทำการอัพเดตเเพตซ์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อป้องกันผู้ประสงค์ร้ายใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทำการโจมตี

ที่มา:

https://us-cert.

Adobe ออกเเพตซ์แก้ไขปัญหาช่องโหว่ 5 รายการใน ColdFusion, After Effects และ Digital Editions

Adobe ออกเเพตซ์แก้ไขปัญหาช่องโหว่ 5 รายการใน ColdFusion, After Effects และ Digital Editions

Adobe ได้ทำการเผยแพร่ข่าวความปลอดภัยและออกแพตซ์เเก้ไขช่องโหว่ 5 รายการสำหรับผลิตภัณฑ์ Adobe ColdFusion, Adobe After Effects และ Digital Editions

โดยช่องโหว่ถูกรายงานโดย Jason Troy (CVE-2020-3767), ทีมนักวิจัยจากบริษัท Secure-D Center คุณ Nuttakorn Tungpoonsup คุณ Ammarit Thongthua และคุณ Sittikorn Sangrattanapitak (CVE-2020-3768), Raki Ben Hamouda (CVE-2020-3796), Matt Powell (CVE-2020-3809 ) จากทีม Zero Day Initiative บริษัท Trend Micro และ (CVE-2020-3798) ได้รับรายงานโดย Jason Troy, Raki Ben Hamouda และนักวิจัยจาก imec-DistriNet ที่ KU Leuven

Adobe ColdFusion พบช่องโหว่ที่มีความรุนแรง 3 รายการมีผลต่อ ColdFusion เวอร์ชัน 2016 และ 2018 ตามลำดับ ช่องโหว่ CVE-2020-3767 เป็นช่องโหว่การปฏิเสธการให้บริการระดับแอปพลิเคชัน (Denial-Of-Services หรือ DoS), ส่วน CVE-2020-3768 เป็นช่องโหว่การยกระดับสิทธิและ CVE-2020-3796 เป็นช่องโหว่การเปิดเผยโครงสร้าง System file

Adobe After Effects พบเป็นช่องโหว่ 1 รายการคือ CVE-2020-3809 ที่ช่องโหว่อาจนำไปสู่การรั่วไหลข้อมูลจากหน่วยความจำระบบ

Adobe Digital Editions ช่องโหว่ CVE-2020-3798 เป็นช่องโหว่ในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบุหาไฟล์ในระบบ

Adobe แนะนำให้ผู้ใช้งานทำการอัพเดตแพตซ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

ที่มา: https://securityaffairs.

Adobe ออกแพตช์อัปเดตด้านความปลอดภัยประจำเดือนธันวาคม 2019 เพื่อแก้ไข 21 ช่องโหว่ใน Acrobat,Reader, Brackets, Photoshop และ ColdFusion

 

Adobe ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ความรุนแรงระดับ Critical ในอุปกรณ์ดังนี้

แก้ไขช่องโหว่ memory corruption ใน Photoshop CC ส่งผลกระทบทำให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งที่เป็นอันตรายด้วย User ที่ใช้งานอยู่
แก้ไขช่องโหว่ command injection ใน Brackets โดย Tavis Ormandy นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Google Project Zero เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับช่องโหว่ดังกล่าว
แก้ไขช่องโหว่ Privilege escalation ใน ColdFusion ที่เกิดจากการเข้าถึงโฟลเดอร์ที่ไม่ปลอดภัยจากค่าเริ่มต้น บริษัทตั้งข้อสังเกตว่าผู้ใช้ที่ปฏิบัติตามขั้นตอน lockdown ระหว่างการติดตั้งจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

Adobe กล่าวว่ายังไม่พบหลักฐานว่าข้อผิดพลาดเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในทางไม่ดีและได้ทำการแจ้งลูกค้าว่าการสนับสนุน Acrobat 2015 และ Reader 2015 จะสิ้นสุดในวันที่ 7 เมษายน 2020 และผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับแพตช์รักษาความปลอดภัยอีกต่อไปหลังจากนั้น

ที่มา securityweek