Microsoft พบช่องโหว่ที่สามารถแพร่กระจายในลักษณะ Wormable, ช่องโหว่ RCE ในระดับ Critical และ 6 ช่องโหว่ Zero-Days

 

การอัปเดต Patch Tuesday ครั้งใหญ่ในเดือนมกราคม 2022 ของ Microsoft ** ครอบคลุม CVE ที่สำคัญ 9 รายการ

Microsoft ได้แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทั้งหมด 97 รายการในการอัปเดต Patch Tuesday ประจำเดือนมกราคมปี 2022 โดย 9 รายการอยู่ในอันดับ Critical รวมถึง 6 รายการที่มีสถานะเป็น Zero-days ที่ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะ

การแก้ไขครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ค่ายใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งรวมถึง: Microsoft Windows และ Windows Components, Microsoft Edge (ที่ใช้ Chromium), Exchange Server, Microsoft Office และ Office Components, SharePoint Server, .NET Framework, Microsoft Dynamics, ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส , Windows Hyper-V, Windows Defender และ Windows Remote Desktop Protocol (RDP)

Dustin Childs นักวิจัยจาก Zero Day Initiative (ZDI) ของ Trend Micro อธิบายว่า "นี่เป็นการอัปเดตครั้งใหญ่มากผิดปกติในเดือนมกราคม" "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนแพตช์เฉลี่ยที่ออกในเดือนมกราคมมีประมาณครึ่งหนึ่งของครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าเราอาจจะพบการอัพเดทจำนวนมากระดับนี้ตลอดทั้งปี"

Zero-Day Tsunami

ถึงจะมี Zero-Day ออกมาจำนวนมาก แต่ยังไม่มี Zero-Day ตัวใดที่ถูกระบุว่าถูกนำไปใช้โจมตีอย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีสองรหัสได้แก่ CVE-2022-21919 และ CVE-2022-21836 ที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย จากทั้งหมดนี้

CVE-2021-22947: HackerOne-assigned CVE in open-source Curl library (RCE)
CVE-2021-36976: MITRE-assigned CVE in open-source Libarchive (RCE)
CVE-2022-21874: Local Windows Security Center API (RCE, CVSS score of 7.8)
CVE-2022-21919: Windows User Profile Service (privilege escalation, CVSS 7.0)
CVE-2022-21839: Windows Event Tracing Discretionary Access Control List (denial-of-service, CVSS 6.1).
CVE-2022-21836: Windows Certificate (spoofing, CVSS 7.8).

cURL bug ถูกเปิดเผยโดย HackerOne เมื่อเดือนกันยายน 2564 Childs กล่าวในการวิเคราะห์ Patch Tuesday ของ ZDI"
และแพตช์นี้ได้รวมไลบรารี cURL ล่าสุดไว้ในผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ด้วยนี่คือเหตุผลที่ CVE นี้ถูกทำให้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในทำนองเดียวกัน แพตช์สำหรับไลบรารี Libarchive ก็ถูกเปิดเผยในปี 2021 และเวอร์ชันล่าสุดของไลบรารีนี้กำลังถูกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ด้วย"

ช่องโหว่ระดับ Critical และช่องโหว่ในลักษณะ Wormable แนะนำให้รีบ Patch โดยทันที

ปัญหา Remote Code-execution (RCE) ในสแต็คโปรโตคอล HTTP นั้นเป็นที่สนใจสำหรับนักวิจัย เนื่องจากมันสามารถใช้ในการแพร่กระจายการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ ช่องโหว่นี้สามารถแพร่กระจายตัวเองได้เองผ่านเครือข่าย โดยไม่จำเป็นต้องให้เหยื่อดำเนินการใดๆ โดยช่องโหว่นี้มีระดับความรุนแรงของช่องโหว่สูงที่สุดของการอัปเดตทั้งหมด โดยมีคะแนนอยู่ที่ 9.8

ช่องโหว่ CVE-2022-21907 ทำงานโดยการส่งแพ็กเก็ตที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษไปยังระบบเป้าหมายโดยใช้ HTTP protocol stack (http.

Microsoft Patch Tuesday ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2021 มาแล้ว พบบางช่องโหว่ถูกใช้โจมตีจริง แนะนำให้ทำการแพตช์โดยด่วน

ไมโครซอฟต์ประกาศแพตช์ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยใน Patch Tuesday รอบเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เมื่อวานนี้ ซอฟต์แวร์ที่ได้รับแพตช์ในรอบนี้สูงสุดยังคงเป็น Windows ซึ่งได้รับแพตช์ไปทั้งหมด 28 รายการจากทั้งหมด 64 CVE ในมุมของผลกระทบนั้น มีช่องโหว่ทั้งหมด 11 รายการที่ถูกระบุอยู่ในเกณฑ์ Critical

จากรายการที่ประกาศ ทีมนักวิจัยจาก DB App Security ได้ตรวจพบว่าช่องโหว่ CVE-2021-1732 ซึ่งเป็นช่องโหว่ Privilege escalation ใน Windows Kernel ได้ถูกนำมาใช้โจมตีจริงโดยกลุ่ม APT ทีมนักวิจัยได้มีการเขียนรายงานการตรวจพบและการวิเคราะห์ช่องโหว่เอาไว้ ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มได้ที่ dbappsecurity

ในขณะเดียวกัน มีการค้นพบช่องโหว่ RCE ระดับ Critical (CVSS 9.8/10) ใน TCP/IP stack ของ Windows ทั้งหมด 2 รายการ จากลักษณะของช่องโหว่ มีความเป็นไปได้สูงว่าช่องโหว่สามารถถูกโจมตีได้จากระยะไกลเพื่อรันโค้ดที่เป็นอันตราย

แพตช์ล่าสุดในรอบนี้ยังมีการแก้แพตช์ช่องโหว่รหัส CVE-2021-1733 ซึ่งเป็นช่องโหว่ Privilege escalation ในเครื่องมือ PsExec ด้วย ช่องโหว่นี้ได้เคยมีการพยายามแก้ไขแพตช์ในเครื่องมือ PsExec แล้วเมื่อเดือนมกราคม อย่างไรก็ตามนักวิจัยด้านความปลอดภัย David Wells ระบุว่าแพตช์ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมนั้นไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลให้แพตช์ถูกบายพาสและยังคงโจมตีช่องโหว่ได้

ขอให้ผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบดำเนินการอัปเดตแพตช์โดยด่วนเพื่อจัดการความเสี่ยงที่จะมีการโจมตีโดยใช้ช่องโหว่เหล่านี้

ที่มา: zdnet,dbappsecurity,twitter,bleepingcomputer

นักวิจัยด้านความปลอดภัยเปิดเผยรายละเอียดช่องโหว่บน Windows NT LAN Manager ที่ Microsoft เพิ่งทำการแก้ไขช่องโหว่

Yaron Zinar นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากบริษัท Preempt ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของช่องโหว่ใน Windows NT LAN Manager (NTLM) ที่ Microsoft ได้ทำการแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวแล้วในการอัปเดตความปลอดภัยประจำเดือนหรือ Patch Tuesday เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

ช่องโหว่ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2021-1678 (CVSSv3: 4.3/10) ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวได้รับการอธิบายจาก Microsoft ว่าเป็นช่องโหว่ที่สามารถ Bypass ฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Windows NT LAN Manager (NTLM) โดยช่องโหว่ดังกล่าวอยู่ใน IRemoteWinSpool MSRPC interface ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซสำหรับ Printer Remote Procedure Call (RPC) ที่ออกแบบมาสำหรับการจัดการตัวจัดคิวของเครื่องพิมพ์เอกสารจากระยะไกล ซึ่งช่องโหว่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเลย์เซสชันการตรวจสอบสิทธิ์ NTLM ไปยังเครื่องที่ถูกโจมตีและใช้ MSRPC interface ของ Printer spooler เพื่อเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลบนเครื่องที่ถูกโจมตี

ช่องโหว่จะส่งผลกระทบกับ Windows ทุกรุ่น ได้แก่ Windows Server, Windows Server 2012 R2, Windows Server 2008, Windows Server 2016, Windows Server 2019, RT 8.1, 8.1, 7 และ 10

ทั้งนี้นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้กล่าวว่าพวกเขามีโค้ด Proof-of-Concept (POC) สำหรับช่องโหว่และสามารถใช้งานได้ แต่จะยังไม่ทำการเผยเเพร่สู่สาธารณะ อย่างไรก็ดีผู้ใช้และผู้ดูแลระบบควรทำการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของผู้ประสงค์ร้าย

ที่มา: securityweek | thehackernews

Microsoft แจ้งเตือนถึงผู้ดูแลระบบเกี่ยวกับการบังคับการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ของ Windows Zerologon

Microsoft ออกแจ้งเตือนถึงผู้ดูแลระบบเกี่ยวกับการบังคับใช้การอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ของ Windows Zerologon ที่จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021

ช่องโหว่ Zerologon เป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญระดับ CVSS 10/10 ติดตามด้วยรหัส CVE-2020-1472 โดยเมื่อผู้โจมตีใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ได้สำเร็จ ผู้โจมตีจะสามารถยกระดับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบบนโดเมนและจะสามารถเข้าควบคุมโดเมนได้

Microsoft มีแผนจะทำการบังคับใช้การอัปเดตแพตช์เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและแก้ไขช่องโหว่ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2021 เป็นส่วนหนึ่งของการออกแพตช์การอัปเดตประจำเดือนหรือ Patch Tuesday แพตช์นี้จะเริ่มบังคับใช้การเชื่อมต่อแบบ Domain Controller enforcement mode ซึ่งจะส่งผลให้ระบบที่เกี่ยวข้องกับจะต้องใช้งาน secure RPC และ Netlogon secure channel ถึงจะใช้งานร่วมกันได้

ทั้งนี้ผู้ดูแลระบบควรรีบทำการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของผู้ประสงค์ร้ายและเพื่อป้องกันการขัดข้องของระบบเมื่อถึงเวลาที่ Microsoft บังคับใช้การเชื่อมต่อแบบปลอดภัยบนเครือข่าย

ที่มา: bleepingcomputer

Microsoft ออก Patch เเก้ไขช่องโหว่ 129 รายการใน Patch Tuesday ประจำเดือนมิถุนายน

Microsoft ออกเเพตซ์แก้ไขความปลอดภัยประจำเดือนหรือที่เรียกว่า Patch Tuesday โดยในเดือนมิถุนายนนี้ Microsoft ได้ทำการเเก้ไขช่องโหว่เป็นจำนวน 129 ซึ่งมี 11 รายการเป็นช่องโหว่ระดับ “Critical” และ 118 รายการเป็นช่องโหว่ระดับ “High”

Microsoft กล่าวว่าการเเก้ไขเเพตซ์ประจำเดือนมิถุนายนนี้ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ซึ่งข่าวดีก็คือช่องโหว่ที่ทำการเเก้ไขนั้นยังไม่พบการใช้เพื่อบุกรุกและแสวงหาประโยชน์ โดยรายละเอียดของช่องโหว่ที่น่าสนใจมีดังนี้

CVE-2020-1181 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Microsoft SharePoint
CVE-2020-1225 , CVE-2020-1226 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Microsoft Excel
CVE-2020-1223 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Word สำหรับ Android
CVE-2020-1248 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Windows Graphics Device Interface (GDI)
CVE-2020-1281 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Windows OLE
CVE-2020-1299 การเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลในการประมวลผล Windows .LNK files.

‼️‼️ แจ้งเตือนระดับวิกฤต ช่องโหว่ระดับอันตรายสูงสุดที่อาจสามารถทำให้เกิด The Next WannaCry ได้กำลังถูกปล่อยออกมา ‼️‼️

Cisco Talos ทำบล็อกแจ้งเตือนใหม่โดยเผลอหลุดชื่อช่องโหว่ RCE ใน SMBv3 ที่ไมโครซอฟต์กำลังจะออกแพตช์รหัส CVE-2020-0796 โดยช่องโหว่นี้มีลักษณะ Wormable ได้ ซึ่งหมายถึงว่ามันสามารถถูกเอามาใช้แพร่กระจายได้เช่นเดียวกับกรณีของ CVE-2017-0143/0144 ที่ #WannaCry ใช้

ตอนนี้ IPS ก็เริ่มมี signature มาก่อนแล้วโดยที่ข้อมูลช่องโหว่ยังไม่มีออกมา แต่จากรายละเอียดก็พอบอกได้แต่เพียงว่าเป็นช่องโหว่ Buffer Overflow ในส่วนของกระบวนการ compress packet

ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ Patch Tuesday ที่กำลังจะมาถึงอาจจะเป็นหนึ่งในแพตช์ที่ช่วยรักษาชีวิตของเราไว้ได้อย่างที่เราคาดไม่ถึงครับ

ที่มา : twitter

Microsoft December 2018 Patch Tuesday Fixes Actively Used Zero-Day Vulnerability

ไมโครซอฟต์และ Adobe ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ประจำเดือนธันวาคม 2018 แก้ไขช่องโหว่ Zero-day ที่กำลังถูกใช้โจมตี

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2018 ไมโครซอฟต์ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ประจำเดือนธันวาคม 2018 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ใน Windows และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมด 39 ช่องโหว่ เป็นช่องโหว่ร้ายแรงมาก (Critical) 9 ช่องโหว่ มีการแก้ไขช่องโหว่ที่สำคัญคือ ช่องโหว่ CVE-2018-8611 ซึ่งเป็น Zero-day ที่กำลังถูกใช้โจมตีด้วยมัลแวร์ ช่องโหว่นี้พบใน Windows Kernel ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโปรแกรมเพื่อยกระดับสิทธิ์ได้ ถูกค้นพบโดย Kaspersky

นอกจากนี้ Adobe ยังได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ประจำเดือนธันวาคม 2018 เช่นกัน โดยแก้ไขช่องโหว่ใน Adobe Acrobat และ Adobe Reader กว่า 87 ช่องโหว่ เป็นช่องโหว่ร้ายแรงมาก (Critical) ถึง 39 ช่องโหว่

ผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบควรทำการอัปเดตเพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ดังกล่าว

ที่มา : BLEEPINGCOMPUTER

Microsoft Releases Patch Updates for 53 Vulnerabilities In Its Software

ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday ประจำเดือน กรกฏาคม 2561 เพื่ออุดช่องโหว่กว่า 53 รายการ

ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday ประจำเดือน กรกฏาคม 2561 เพื่ออุดช่องโหว่กว่า 53 รายการ โดยเป็นช่องโหว่ระดับร้ายแรงสูง (critical) จำนวน 17 รายการ และกระทบกว่า 15 โปรแกรม เช่น Internet Explorer Microsoft Edge Microsoft Windows Adobe Flash Player เป็นต้น

ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday ประจำเดือน กรกฏาคม 2561 เพื่ออุดช่องโหว่กว่า 53 รายการ แบ่งออกเป็น

- ช่องโหว่ระดับร้ายแรงสูง (critical) 17 รายการ
- ระดับ important 34รายการ
- ระดับ moderate 1 รายการ
- ระดับ low 1 รายการ

ช่องโหว่ต่างๆครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ดังนี้

- Microsoft Windows 7, 8.1, RT 8.1, and 10
- Microsoft Windows Server 2008, 2008 R2, 2012, 2012 R2, 2016
- Microsoft Windows Server Core Installation 2008, 2008 R2, 2012, 2012 R2, 2016
- Microsoft Office 2010, 2013, 2013 RT, 2016, 2016 Click-to-Run
- Microsoft Access 2013, 2016
- Microsoft Internet Explorer 9, 10, 11
- Microsoft Edge
- Microsoft SharePoint Enterprise Server 2013, 2016
- Microsoft Visual Studio 2010, 2012, 2013, 2015, 2017
- Powershell
- Microsoft .NET Framework
- ChakraCore
- Skype for Business 2016
- Expression Blend 4
- ASP.NET Core
- ASP.NET Web Pages
- ASP.NET MVC

และครอบคลุมไปถึงแก้ไขช่องโหว่ของ Adobe Flash Player ด้วย

ช่องโหว่กว่าครึ่งหนึ่งของการอัพเดตครั้งนี้เป็นช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับ Remote Code Execution (RCE) ถึงแม้ว่ายังไม่มีการรายงานว่าช่องโหว่เหล่านี้ถูกใช้ในการโจมตี แต่ผู้ใช้งานควรอัพเดทแพตช์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อความปลอดภัย

ที่มา:thehackernews