Google Chrome เพิ่มฟีเจอร์ background scans สำหรับรหัสผ่านที่รั่วไหล [EndUser]

Google ประกาศว่าฟีเจอร์ Chrome Safety Check จะทำงานเบื้องหลังเพื่อตรวจสอบว่ารหัสผ่านที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์นั้นรั่วไหลหรือไม่

Chrome จะแจ้งเตือนผู้ใช้บนเดสก์ท็อป หากพบว่ามีการใช้ Extensions ที่ถูกระบุว่าอันตราย (ถูกถอดจาก Chrome Web Store), แนะนำ Chrome เวอร์ชันล่าสุด รวมถึงเปิดใช้งาน Safe Browsing เพื่อบล็อกเว็บไซต์ในรายการเว็บไซต์ที่อาจไม่ปลอดภัยของ Google

Sabine Borsay - Product Manager ของ Chrome Group ระบุว่า "Safety Check สำหรับ Chrome บนเดสก์ท็อปจะทำงานอัตโนมัติในเบื้องหลัง การแจ้งเตือนเหล่านี้จะปรากฏในเมนู three-dot เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการต่อได้

นอกจากนี้ Google จะขยายฟังก์ชันการทำงานของ Safety Check เพื่อเพิกถอนการอนุญาตโดยอัตโนมัติ เช่น การเข้าถึงตำแหน่ง หรือไมโครโฟนของผู้ใช้ สำหรับเว็บไซต์ที่ไม่ได้เข้าเยี่ยมชมเป็นเวลานาน

Safety Check ยังได้รับการอัปเกรดเพื่อตั้งค่าสถานะเว็บไซต์ที่มีการมีส่วนร่วมน้อย ซึ่งแสดงการแจ้งเตือนจำนวนมากเกินไป และอนุญาตให้ผู้ใช้ปิดใช้งานเว็บไซต์เหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว

Safety Check เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2020 โดยจะทำการเปรียบเทียบข้อมูลการเข้าสู่ระบบ กับข้อมูลที่เคยรั่วไหลออกมา นอกจากนี้ยังตรวจสอบรหัสผ่านที่คาดเดาง่าย ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ Brute-force หรือการพยายามถอดรหัส

ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า Google จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บน Chrome สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์
เดสก์ท็อป ให้สามารถบันทึกกลุ่มแท็บต่าง ๆ และทำการเรียกดูเว็บไซต์ในอุปกรณ์เดสก์ท็อปอื่น ๆ ได้

Chrome กำลังอัปเกรดฟีเจอร์ควบคุมประสิทธิภาพอย่าง Memory Saver เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจมากขึ้นว่าฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานอย่างไร และช่วยให้เบราว์เซอร์ทำงานราบรื่นขึ้นได้อย่างไร

Sabine Borsay ระบุว่า "เราเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้หน่วยความจำของแท็บ เมื่อคุณวางเมาส์เหนือแท็บใน Memory Saver mode รวมถึงหน่วยความจำที่อาจประหยัดได้เมื่อแท็บนั้นไม่ทำงาน และเราได้ทำให้การระบุเว็บไซต์ที่ควรใช้งานอยู่เสมอง่ายขึ้น"

Google ได้ยกระดับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งาน Chrome ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการ
อัปเกรด HTTP requests ที่ไม่ปลอดภัยทั้งหมดเป็น HTTPS requests

ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานแบบจำกัดในเดือนกรกฎาคม แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ได้มีการเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคนใน Stable channel แล้ว

Google ยังได้ประกาศเมื่อเดือนกันยายนว่า ได้เปิดใช้งานคุณลักษณะ Safe Browsing เพื่อการ
ป้องกันฟิชชิ่งแบบเรียลไทม์สำหรับผู้ใช้ทุกคน โดยใช้รายชื่อ URL ที่ทราบว่าเป็นอันตรายซึ่งจัดเก็บไว้ในเครื่อง

ที่มา : bleepingcomputer