ช่องโหว่ระดับ Critical ของ Cisco Smart Licensing Utility กำลังถูกนำมาใช้ในการโจมตี

ผู้โจมตีเริ่มมุ่งเป้าไปที่การใช้งาน Cisco Smart Licensing Utility (CSLU) ที่ไม่ได้รับการอัปเดตแพตช์จากช่องโหว่ที่ส่งผลให้มีการเปิดเผยบัญชีผู้ดูแลระบบที่เป็นลักษณะ backdoor

แอปพลิเคชัน CSLU สำหรับ Windows ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการ licenses และผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงภายในองค์กรโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโซลูชัน Smart Software Manager บน Cloud ของ Cisco

Cisco ได้แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยนี้ (CVE-2024-20439) ในเดือนกันยายน โดยอธิบายว่าเป็นช่องโหว่ที่เกิดจาก "ข้อมูล credential ของบัญชีผู้ใช้ระดับผู้ดูแลระบบแบบ static ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้" ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ผ่านการยืนยัน สามารถเข้าสู่ระบบที่ยังไม่ได้รับการอัปเดตแพตช์จากระยะไกลด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบผ่าน API ของแอปพลิเคชัน CSLU

บริษัทยังได้แก้ไขช่องโหว่การเปิดเผยข้อมูล CSLU ระดับ Critical อีกหนึ่งรายการ (CVE-2024-20440) ซึ่งผู้โจมตีที่ไม่ได้ผ่านการยืนยันสามารถใช้เพื่อเข้าถึง log files ที่มีข้อมูลที่มีความสำคัญ (รวมถึงข้อมูล API credentials) โดยการส่ง HTTP request ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษไปยังอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่

ช่องโหว่ทั้งสองรายการนี้ส่งผลกระทบกับระบบที่ใช้งานเวอร์ชัน Cisco Smart Licensing Utility ที่มีช่องโหว่เท่านั้น และสามารถถูกโจมตีได้เฉพาะเมื่อผู้ใช้งานเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน CSLU ซึ่งไม่ได้ออกแบบให้ทำงานใน background โดยค่าเริ่มต้น

Nicholas Starke นักวิจัยด้านภัยคุกคามจาก Aruba ได้ทำ reverse-engineered กับช่องโหว่นี้ และเผยแพร่บทความที่มีรายละเอียดทางเทคนิค (รวมถึงรหัสผ่าน static ที่ถูกเข้ารหัส) ประมาณสองสัปดาห์หลังจากที่ Cisco ปล่อยแพตช์ความปลอดภัย

เป้าหมายในการโจมตี

Johannes Ullrich คณบดีฝ่ายวิจัยของสถาบันเทคโนโลยี SANS รายงานว่า กลุ่มผู้โจมตีกำลังเชื่อมโยงช่องโหว่ทั้งสองรายการในความพยายามโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่การใช้งาน CSLU ที่เปิดเผยอยู่บนอินเทอร์เน็ต

Ullrich ระบุว่า "การค้นหาคร่าว ๆ ไม่พบการใช้ช่องโหว่ในการโจมตี (ในขณะนั้น) แต่รายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงข้อมูล backdoor credentials ถูกเผยแพร่ในบล็อกของ Nicholas Starke หลังจาก Cisco ออกคำแนะนำด้านความปลอดภัย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่อาจจะเห็นพฤติกรรมการโจมตีหลังจากนี้"

แม้ว่าจะยังไม่ทราบเป้าหมายของการโจมตีด้วยช่องโหว่เหล่านี้ แต่กลุ่มผู้โจมตียังพยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ความปลอดภัยอื่น ๆ รวมถึงช่องโหว่การเปิดเผยข้อมูลที่ดูเหมือนจะเป็นช่องโหว่ที่มีการโจมตีโดยใช้ proof-of-concept (POC) ที่ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ (CVE-2024-0305) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิตอล (DVR) ของ Guangzhou Yingke Electronic

คำแนะนำความปลอดภัยของ Cisco สำหรับ CVE-2024-20439 และ CVE-2024-20440 ยังคงระบุว่า ทีมตอบสนองเหตุการณ์ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (PSIRT) ยังไม่พบหลักฐานว่าผู้โจมตีกำลังใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทั้งสองรายการ

CVE-2024-20439 ไม่ใช่บัญชี backdoor ตัวแรกที่ Cisco ลบออกจากผลิตภัณฑ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยพบข้อมูล credentials ที่ฝังอยู่ในซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของบริษัท เช่น Digital Network Architecture (DNA) Center, IOS XE, Wide Area Application Services (WAAS) และ Emergency Responder

ที่มา : bleepingcomputer

กลุ่ม RedMike จากจีนกำลังโจมตีผู้ให้บริการโทรคมนาคมผ่านช่องโหว่ในอุปกรณ์ Cisco

กลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มีชื่อเสียง และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนได้มุ่งเป้าการโจมตีไปยังบริษัทโทรคมนาคมในสหรัฐฯ (more…)

Cisco แจ้งเตือนช่องโหว่ Denial of Service ที่พบว่ามี PoC exploit code แล้ว

Cisco ปล่อยแพตช์อัปเดตด้านความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Denial-of-Service (DoS) ใน ClamAV ซึ่งปัจจุบันพบว่ามี Proof-of-Concept (PoC) exploit code ที่สามารถใช้ในการโจมตีได้ (more…)

Cisco แก้ไขช่องโหว่การยกระดับสิทธิ์ระดับ Critical (CVSS 9.9) บนระบบ Meeting Management

Cisco ปล่อยแพตซ์อัปเดตด้านความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยระดับ Critical บนระบบ Meeting Management ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีจากภายนอกที่ผ่านการยืนยันตัวตนสามารถยกระดับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบบน instances ที่มีช่องโหว่ได้ (more…)

CISCO switches หลายร้อยตัวได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ใน Bootloader

ช่องโหว่ใน Bootloader ของ Cisco NX-OS ส่งผลกระทบต่อสวิตช์มากกว่า 100 ตัว ทำให้ผู้โจมตีสามารถ bypass การตรวจสอบ image signature ของระบบได้

โดย Cisco ได้ปล่อยแพตช์ความปลอดภัยสำหรับช่องโหว่ CVE-2024-20397 (คะแนน CVSS 5.2) ใน Bootloader ของซอฟต์แวร์ NX-OS ซึ่งผู้โจมตีอาจใช้ประโยชน์เพื่อ bypass image signature ของระบบได้

ช่องโหว่ใน Bootloader ของ Cisco NX-OS Software อาจทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนซึ่งเข้าถึงระบบได้ในระดับ physical หรือผู้โจมตีในระบบที่มีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ สามารถ bypass image signature ของระบบ NX-OS ได้

สาเหตุของช่องโหว่นี้มาจากการตั้งค่า Bootloader ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้คำสั่ง Bootloader หลายคำสั่งเพื่อทริกเกอร์ให้เกิดช่องโหว่ได้

การโจมตีที่ประสบความสำเร็จอาจทำให้ผู้โจมตี bypass image signature ของระบบ NX-OS และโหลดซอฟต์แวร์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบได้

ช่องโหว่ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ Cisco ต่อไปนี้ที่ใช้ NX-OS Software กับเวอร์ชัน BIOS ที่มีช่องโหว่ โดยไม่คำนึงถึงการตั้งค่าการใช้งาน

UCS 6500 Series Fabric Interconnects (CSCwj35846)
MDS 9000 Series Multilayer Switches (CSCwh76163)
Nexus 3000 Series Switches (CSCwm47438)
Nexus 7000 Series Switches (CSCwh76166)
Nexus 9000 Series Fabric Switches ในโหมด ACI (CSCwn11901)
Nexus 9000 Series Switches ในโหมด NX-OS แบบ Standalone (CSCwm47438)
UCS 6400 Series Fabric Interconnects (CSCwj35846)
Cisco ระบุว่า ไม่มีวิธีการอื่นในการลดผลกระทบจากช่องโหว่

บริษัท PSIRT ระบุว่า ยังไม่พบการโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ CVE-2024-20397

โดย Cisco จะไม่แก้ไขช่องโหว่สำหรับ Nexus 92160YC-X ที่หมดระยะเวลาการสนับสนุนด้านความปลอดภัย และช่องโหว่แล้ว

ที่มา : securityaffairs 

CISA แจ้งเตือนช่องโหว่ระดับ Critical ของ Palo Alto Networks ที่กำลังถูกนำไปใช้ในการโจมตี

CISA แจ้งเตือนการพบ Hacker กำลังใช้ช่องโหว่การตรวจสอบสิทธิ์ใน Palo Alto Networks Expedition ซึ่งเป็น migration tool ที่สามารถช่วยแปลง configuration ไฟร์วอลล์จาก Checkpoint, Cisco และผู้ให้บริการรายอื่นให้สามารถใช้ได้กับ PAN-OS (more…)

พบช่องโหว่ของ Cisco ที่ทำให้แฮ็กเกอร์เรียกใช้คำสั่งด้วยสิทธิ์ root บน access point ของ UWRB

Cisco ได้แก้ไขช่องโหว่ระดับ Critical (คะแนน CVSS:3.1 10.0) ซึ่งช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้คำสั่งด้วยสิทธิ์ root บน access points ของ Ultra-Reliable Wireless Backhaul (URWB) ที่มีช่องโหว่ได้ โดยเป็นการเชื่อมต่อสำหรับ wireless automation ในระบบอุตสาหกรรม (more…)

Sophos เปิดเผยรายงานการป้องกันการโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายจากกลุ่ม Hacker ชาวจีน นานกว่า 5 ปี

Sophos เปิดเผยรายงานที่เรียกว่า "Pacific Rim" ซึ่งให้รายละเอียดว่า Sophos ได้ติดตาม และป้องกันการโจมตีของกลุ่ม Hacker ชาวจีน มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว โดยกลุ่ม Hacker ได้กำหนดเป้าหมายการโจมตีไปยังอุปกรณ์เครือข่ายทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์จาก Sophos ด้วย

ทั้งนี้ Sophos ได้แจ้งเตือนบริษัทต่าง ๆ ว่า กลุ่ม Hacker ชาวจีน ได้ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อติดตั้งมัลแวร์ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้สามารถติดตามการสื่อสารบนเครือข่าย, ขโมยข้อมูล credentials หรือทำหน้าที่เป็น proxy server สำหรับการโจมตีแบบ Relay Attack (more…)

ฟีเจอร์ใหม่ของ Cisco ASA และ FTD ช่วยบล็อกการโจมตีแบบ brute-force บน VPN

Cisco ได้เพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ที่ช่วยลดความรุนแรงของการโจมตีแบบ brute-force และ password spray บน Cisco ASA และ Firepower Threat Defense (FTD) ได้มาก ซึ่งช่วยป้องกันเครือข่ายจากการโจมตีบนระบบและลดการใช้งานทรัพยากรของอุปกรณ์ (more…)