CIA Developed Windows Malware That Alters Boot Sector to Load More Malware

รายงานจากทาง WikiLeaks ระบุเกี่ยวกับ โปรเจค Angelfire ของทาง CIA ซึ่งเป็นการพัฒนา Malware Framework เพื่อนำไปใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการเป็น Windows ส่วนประกอบหลักของ Angelfire มีอยู่ 5 ส่วน คือ Solartime, Wolfcreek, Keystone, BadMFS, และ Windows Transitory File System

ทั้งนี้ Angelfire เป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆ เครื่องมือที่ทาง CIA พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ hack ระบบคอมพิวเตอร์ Grasshopper, ELSA, AfterMidnight และ Assassin คือ Framework รุ่นก่อนๆ ที่ CIA เคยใช้ในการ hack
เมื่อเทียบกับเครื่องมือตัวอื่นๆ แล้ว Angelfire ยังไม่ใช้เครื่องมือที่ดีมากนัก เพราะยังมีข้อเสียอยู่หลายอย่าง เช่น Security Software บนตัวเครื่องผู้ใช้งานอาจตรวจเจอระบบไฟล์ของ BadMFS จากไฟล์ที่ชื่อว่า “zf” และผู้ใช้งานอาจเห็น popup เมื่อส่วนนึ่งของ Angelfire Framework เกิดการ crash และ Keystone สามารถปลอมเป็น Process ที่อยู่ C:\Windows\system32\svchost.

CIA Developed Windows Malware That Alters Boot Sector to Load More Malware

รายงานจากทาง WikiLeaks ระบุเกี่ยวกับ โปรเจค Angelfire ของทาง CIA ซึ่งเป็นการพัฒนา Malware Framework เพื่อนำไปใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการเป็น Windows ส่วนประกอบหลักของ Angelfire มีอยู่ 5 ส่วน คือ Solartime, Wolfcreek, Keystone, BadMFS, และ Windows Transitory File System
ทั้งนี้ Angelfire เป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆ เครื่องมือที่ทาง CIA พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ hack ระบบคอมพิวเตอร์ Grasshopper, ELSA, AfterMidnight และ Assassin คือ Framework รุ่นก่อนๆ ที่ CIA เคยใช้ในการ hack
เมื่อเทียบกับเครื่องมือตัวอื่นๆ แล้ว Angelfire ยังไม่ใช้เครื่องมือที่ดีมากนัก เพราะยังมีข้อเสียอยู่หลายอย่าง เช่น Security Software บนตัวเครื่องผู้ใช้งานอาจตรวจเจอระบบไฟล์ของ BadMFS จากไฟล์ที่ชื่อว่า “zf” และผู้ใช้งานอาจเห็น popup เมื่อส่วนนึ่งของ Angelfire Framework เกิดการ crash และ Keystone สามารถปลอมเป็น Process ที่อยู่ C:\Windows\system32\svchost.

WikiLeaks Details Mac OS X Hacking Tools Used by CIA

มาอีกเป็นโขยง ข้อมูลหลุดโครงการ UCL/Raytheon, Imperial ของ CIA ถูกปล่อยบน WikiLeaks แล้ว

วิกิลีคส์ได้มีการเผยแพร่โครงการพัฒนาทางไซเบอร์ของ CIA ในโปรเจค Vault 7 อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มีโครงการใหญ่ทั้งหมด 2 โครงการได้แก่โครงการ UCL/RayTheon และ Imperial ซึ่งทั้งสองเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์และพัฒนามัลแวร์เช่นเดียวกัน

สำหรับโครงการแรกหรือ UCL/RayTheon อ้างอิงจากวิกิลีคส์ เป็นเอกสารจากผู้รับเหมาของ CIA ชื่อ Raytheon Blackbird Technologies โดย UCL นั้นมีชื่อเต็มว่าโครงการ UMBRAGE Component Library โครงการ UCL/RayTheon เป็นโครงการที่ RayTheon ทำการวิจัยและเสนอแนวความคิดในการพัฒนามัลแวร์รวมไปถึงการโจมตีกับทาง CIA โดยที่มาทั้งจากการวิเคราะห์มัลแวร์ที่มีการแพร่กระจายอยู่แล้วและการทำทดลองลับเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพของโครงการพัฒนามัลแวร์ของ CIA

สำหรับโครงการที่สองหรือ Imperial นั้น เป็นโครงการที่ประกอบไปด้วยมัลแวร์ 3 ประเภทที่พร้อมใช้งานด้วยกัน แยกเป็น

- มัลแวร์ Achilles เป็นมัลแวร์ที่พุ่งเป้าไปที่การฝังตัวเป็นโทรจันในตัวติดตั้งโปรแกรมของ MacOS (ไฟล์ .dmg)
- มัลแวร์ Aeris เป็นมัลแวร์ที่ทำงานบน Debian, RHEL, Solaris, FreeBSD และ CentOS โดยมีฟังก์ชันหลากหลาย อาทิ ขโมยหรือดักฟังข้อมูลบนระบบที่มีการติดตั้ง
- มัลแวร์ SeaPea เป็นมัลแวร์ในลักษณะ Rootkit บน MacOS โดยเน้นไปที่การฝังตัวในระยะยาว สามารถรันได้บน Mac OS X รุ่น 10.6 และ 10.7

หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมของมัลแวร์รวมไปถึงการทำงานในเชิงลึกสามารถดาวโหลดไฟล์ได้จากแหล่งที่มา

ที่มา : securityweek