Adobe ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ระดับ Critical จำนวน 7 รายการ ในการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือนมกราคม 2021

Adobe ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ที่สำคัญและมีความรุนแรงระดับ Critical จำนวน 7 รายการในผลิตภัณฑ์ Adobe Photoshop, Illustrator, Animate, Bridge, InCopy, Captivate และ Campaign Classic

ช่องโหว่ที่สำคัญที่ได้รับการแก้ไขบนผลิตภัณฑ์ Adobe Photoshop คือ CVE-2021-21006 เป็นช่องโหว่ Heap-based buffer overflow ที่จะทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถเรียกใช้โค้ดได้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยช่องโหว่จะส่งผลกระทบกับ Adobe Photoshop สำหรับ Windows และ macOS

ช่องโหว่ที่สำคัญที่ได้รับการแก้ไขบนผลิตภัณฑ์ Adobe Illustrator คือ CVE-2021-21007 เป็นช่องโหว่ที่เกิดจากข้อผิดพลาดขององค์ประกอบเส้นทางการค้นหาที่ไม่มีการควบคุม (Uncontrolled search path element) ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ ซึ่งช่องโหว่จะส่งผลกระทบกับ Adobe Illustrator สำหรับ Windows

ช่องโหว่ที่สำคัญที่ได้รับการแก้ไขบนผลิตภัณฑ์ Adobe Bridge คือ CVE-2021-21012 และ CVE-2021-21013 เป็นช่องโหว่การเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งช่องโหว่จะส่งผลกระทบกับ Adobe Bridge สำหรับ Windows เวอร์ชัน 11 และก่อนหน้า

นอกจากนี้ Adobe ยังแก้ไขช่องโหว่ที่สำคัญใน Adobe Animate (CVE-2021-21008), Adobe InCopy (CVE-2021-21010) และ Adobe Captivate (CVE-2021-21011)

ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรทำการอัปเดตและติดตั้งแพตช์ความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการตกเป็นเป้าหมายของผู้ประสงค์ร้าย

ที่มา: zdnet | threatpost

 

Adobe เเก้ไขช่องโหว่ระดับ ‘Critical’ ใน Illustrator, Bridge และ Magento

Adobe ได้เผยแพร่แพตช์ปรับปรุงความปลอดภัยสำหรับ Adobe Illustrator, Bridge และ Magento ซึ่งทำการแก้ไขช่องโหว่จำนวน 35 รายการ โดยมี 25 รายการเป็นช่องโหว่ที่มีความรุนเเรงระดับ ‘Critical’ หากผู้โจมใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ดังกล่าวอาจนำไปสู่การดำเนินการเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต, การเปิดเผยข้อมูลที่มีความสำคัญ และอาจทำให้เกิดการเรียกใช้โค้ดโจมตีจากระยะไกลได้

Adobe Illustrator แก้ไขช่องโหว่ระดับ ‘Critical’ จำนวน 5 รายการพบเป็นช่องโหว่ Memory Corruption ที่สามารถเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกติดตามเป็น CVE-2020-9570, CVE-2020-9571, CVE-2020-9572, CVE-2020-9573, CVE-2020-9574
Adobe Bridge เเก้ไขช่องโหว่ 17 รายการโดยเเบ่งเป็นระดับ ‘Critical’ จำนวน 14 รายการโดยช่องโหว่มีผลกระทบทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตและช่องโหว่ระดับ ’Important’ 3 รายการโดยช่องโหว่มีผลกระทบทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกดูข้อมูลที่มีความสำคัญได้
Magento CMS เเก้ไขช่องโหว่ 13 รายการโดยเเบ่งเป็นระดับ ‘Critical’ จำนวน 6 รายการและช่องโหว่ระดับ ’Important’ 4 รายการและระดับ ‘Moderate’ จำนวน 3 รายการช่องโหว่เหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต, การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญและการเข้าถึง Admin Panel โดยไม่ได้รับอนุญาต

ข้อเเนะนำ ผู้ใช้งาน Adobe Illustrato 2020 เวอร์ชั่น 24.0.2 และรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้งานเวอร์ชั่น Windows ผู้ใช้งานควรทำการอัพเดตเเพตซ์เป็น Adobe Illustrato 2020 เวอร์ชั่น 24.1.2
ผู้ใช้งาน Adobe Bridge เวอร์ชั่น 10.0.1 และรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้งานควรทำการอัพเดตเเพตซ์เป็น Adobe Bridge เวอร์ชั่น 10.0.4
ผู้ใช้งาน Magento Commerce เวอร์ชั่น 2.3.4 และรุ่นก่อนหน้า, Magento Open Source เวอร์ชั่น 2.3.4 และรุ่นก่อนหน้า, Magento Enterprise Edition เวอร์ชั่น 1.14.4.4 และรุ่นก่อนหน้าและ Magento Community Edition เวอร์ชั่น 1.9.4.4 และรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้งาน Magento CMS ควรทำการติดตั้งและอัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้

ที่มา:
bleepingcomputer.

Unsecured Adobe Server Exposes Data for 7.5 Million Creative Cloud Users

บริษัทซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ของสหรัฐอเมริกาชื่อ Adobe ประสบปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งาน จากบริการ Creative Cloud ที่เป็นนิยมในตอนนี้ ด้วยจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการประมาณ 15 ล้านคน

Adobe Creative Cloud หรือ Adobe CC เป็นการบริการให้สมาชิกสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ของ Adobe ได้โดยการเช่า เช่น Photoshop, Illustrator, Premiere Pro, InDesign, Lightroom และอีกมากมาย

เมื่อต้นเดือนนี้ Bob Diachenko นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ร่วมมือกับบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Comparitech ค้นพบฐานข้อมูล Elasticsearch ที่ไม่มีการตั้งรหัสผ่านของบริการ Adobe Creative Cloud ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือผ่านการตรวจสอบ

ข้อมูลที่เปิดเผยจากฐานข้อมูลซึ่งขณะนี้มีข้อมูลส่วนตัวของบัญชีผู้ใช้งาน Adobe Creative Cloud อยู่เกือบ 7.5 ล้านบัญชี ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยจากบริการ Creative Cloud ได้แก่ ที่อยู่อีเมล วันที่สมัครสมาชิก ผลิตภัณฑ์ Adobe ที่สมัครเป็นสมาชิก สถานะการสมัครสมาชิก สถานะการชำระเงิน รหัสสมาชิก ประเทศ เวลาการเข้าสู่ระบบล่าสุด และสมาชิกดังกล่าวเป็นพนักงานของ Adobe หรือไม่

ไม่มีข้อมูลทางการเงินรั่วไหล แต่จากข้อมูลที่รั่วไหลออกมา สามารถนำข้อมูลผู้ใช้งาน Adobe Creative Cloud ไปทำอีเมลฟิชชิงเพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานได้ Comparitech กล่าวในบล็อกโพสต์" อาชญากรไซเบอร์อาจทำตัวเหมือน Adobe หรือ บริษัท ที่เกี่ยวข้องและหลอกให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเช่น รหัสผ่านส่วนตัว

Diachenko ที่ค้นพบฐานข้อมูลที่รั่วไหลแจ้งให้ Adobe ทราบทันทีในวันที่ 19 ตุลาคม

บริษัท Adobe ได้มีมาตรการการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยปิดการเข้าถึงฐานข้อมูลที่เป็นสาธารณะในวันเดียวกัน ตามรายงานของบล็อกที่เผยแพร่โดย Adobe ในวันศุกร์

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว Adobe ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่เกิดขึ้นจากข้อผิดพลาด ได้มีการปิดระบบที่ที่มีการทำงานที่ผิดพลาดโดยทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ที่เกิดขึ้น

ปัญหานี้ไม่มีส่งผลกระทบต่อการทำงานของผลิตภัณฑ์หรือบริการหลักของ Adobe แต่อย่างใดแต่ทาง Adobe ได้มีการตรวจสอบกระบวนการพัฒนา เพื่อช่วยป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

สิ่งที่ผู้ใช้ควรทำ

ผู้ใช้ส่วนใหญ่ควรระวังอีเมลที่เป็นฟิชชิ่ง ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไปที่อาชญากรไซเบอร์ทำหลังจากได้ข้อมูลข้องผู้ใช้งาน เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวเช่นรหัสผ่านและข้อมูลทางการเงิน

แม้ว่าฐานข้อมูลจะไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินใดๆ แต่ก็เป็นความคิดที่ดีที่ผู้ใช้งานควรจะระมัดระวังและคอยสังเกตการณ์ธนาคารของคุณและใบแจ้งยอดการชำระเงินการทำกิจกรรมทางการเงิน หากพบสิ่งที่ผิดปกติควรรีบแจ้งไปยังธนาคารทันที

Adobe ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานเปิดการใช้งาน two-factor authentication เพื่อช่วยรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ที่มา thehackernews