พบช่องโหว่ใน Sudo ที่จะช่วยให้ผู้โจมตีระบบปฏิบัติการ Linux สามารถยกระดับสิทธิ์เป็น Root ได้

ผู้เชี่ยวชาญจาก Qualys ได้เปิดเผยถึงช่องโหว่ที่สำคัญในเครื่องมือ Sudo ที่จะช่วยให้ผู้โจมตีระบบปฏิบัติการ Unix สามารถยกระดับสิทธิ์เป็น Root โดยช่องโหว่ถูกติดตามด้วยรหัส CVE-2021-3156 หรือที่เรียกว่า Baron Samedit

Sudo เป็นเครื่องมือบนระบบปฏิบัติการ Unix ที่ช่วยจำกัดสิทธิ์ของผู้ใช้งานอยู่ในระดับปกติให้สามารถยกระดับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบที่มีสิทธิ์ Root บนระบบได้ อีกทั้ง Sudo ยังสามารถใช้เพื่อรันคำสั่งในบริบทของผู้ใช้งานอื่น ๆ ได้ ตามการคอนฟิกที่อยู่ใน /etc/sudoers

ช่องโหว่ CVE-2021-3156 เป็นช่องโหว่ Heap Buffer Overflow ที่นำไปสู่การยกระดับสิทธิ์เป็น Root ได้ โดยที่ผู้โจมตีไม่จำเป็นต้องรู้รหัสผ่านของผู้ใช้ โดยช่องโหว่นี้จะกระทบกับระบบปฏิบัติการ Ubuntu 20.04 (Sudo 1.8.31), Debian 10 (Sudo 1.8.27) และ Fedora 33 (Sudo 1.9.2) และคาดว่าเวอร์ชันของ Sudo ที่ได้รับผลกระทบคือ 1.9.0 – 1.9.5p1 และ 1.8.2 – 1.8.31p1

ทั้งนี้ผู้ใช้ที่ต้องการตรวจสอบว่าระบบปฏิบัติการของท่านได้รับผลกระทบจากช่องโหว่หรือไม่ สามารถทดสอบโดยคุณต้องเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ปกติ จากนั้นรันคำสั่ง "sudoedit -s '/'" โดยระบบที่มีช่องโหว่จะแสดงข้อผิดพลาดที่ขึ้นต้นด้วย "sudoedit” ส่วนระบบที่ไม่ได้รับผลกระทบจะเเสดงข้อผิดพลาดที่ขึ้นต้นด้วย "usage:" อย่างไรก็ตามผู้ใช้และผู้ดูแลระบบควรทำการอัปเดต Sudo ให้เป็นเวอร์ชัน 1.9.5p2 หรือมากกว่า เพื่อป้องกันการตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของผู้ประสงค์ร้าย

ที่มา: bleepingcomputer, zdnet

Libarchive vulnerability can lead to code execution on Linux, FreeBSD, NetBSD

Libarchive ที่มีอยู่ใน Debian, Ubuntu, Gentoo, Arch Linux, FreeBSD และ NetBSD distros มีช่องโหว่ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดบนเครื่องได้ แต่ไม่กระทบกับ macOS และ Windows

ช่องโหว่ใน LIBARCHIVE (CVE-2019-18408) ซึ่งเป็นไลบรารีสำหรับการอ่านและสร้างไฟล์บีบอัดที่ถูกใช้บน Linux / BSD อย่างแพร่หลาย ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดเผยรายละเอียดของช่องโหว่ดังกล่าวออกมา หลังจากที่ Linux และ FreeBSD distros หลายตัวได้ปล่อยการอัพเดตแพทช์สำหรับ Libarchive ที่ใช้งานอยู่

ช่องโหว่ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนระบบของผู้ใช้ผ่านไฟล์บีบอัดที่มีการดัดแปลงมาแล้ว ถูกค้นพบตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ใช้เวลาพอสมควรในการแก้ไขเพื่อปล่อยให้ระบบปฏิบัติการทั้งหมดทำการอัพเดตได้ นอกเหนือจากการเป็นช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการแล้ว ยังส่งผลให้เกิดช่องโหว่ในส่วนของ file browsers และเครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้ในการประมวลผลเกี่ยวกับ multimedia ด้วย

ที่มา: zdnet