ศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติสวิส (NCSC) กำลังเตือนเจ้าของ iPhone เกี่ยวกับข้อความหลอกลวงที่อ้างว่าพบ iPhone ที่สูญหาย หรือถูกขโมยไป แต่แท้จริงแล้วพยายามที่จะขโมยข้อมูล credentials ของ Apple ID ของคุณ
เมื่อลูกค้า iPhone ทำโทรศัพท์หาย หรือถูกขโมย พวกเขาสามารถตั้งค่าข้อความที่กำหนดเองในแอป Find My ของ Apple ซึ่งจะปรากฏบนหน้าจอล็อก เมื่อทำหาย ข้อความนี้อาจมีอีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อเจ้าของ
จากข้อมูลของ NCSC ผู้ไม่หวังดีอาจใช้ข้อมูลนี้ส่งข้อความฟิชชิ่ง (smishing) แบบเจาะจงผ่านทาง SMS หรือ iMessage ไปยังข้อมูลติดต่อที่แสดงไว้ โดยอ้างว่ามาจากทีม Find My ของ Apple และระบุว่าพบโทรศัพท์ของพวกเขาแล้ว
NCSC อธิบายว่า การทำ iPhone หายถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ไม่เพียงแต่อุปกรณ์จะหายไป แต่ข้อมูลส่วนตัวของคุณก็อาจสูญหายไปด้วย
หลังจากทำโทรศัพท์หาย คนส่วนใหญ่ยังหวังว่าจะมีคนหามันเจอ แต่ถ้ามิจฉาชีพได้โทรศัพท์ของคุณไป พวกเขาอาจพยายามใช้ประโยชน์จากความหวังนี้ โดยส่งข้อความตัวอักษร หรือ iMessages ที่ดูเหมือนว่ามาจาก Apple โดยอ้างว่า iPhone ที่หายไปถูกพบในต่างประเทศ
ข้อความฟิชชิ่งมีรายละเอียดที่น่าเชื่อถือ เช่น รุ่นของโทรศัพท์ สี และข้อมูลอื่นใดที่สามารถดึงออกมาได้โดยตรงจากอุปกรณ์ที่ล็อกอยู่
ข้อความฟิชชิ่ง ระบุว่า "เรายินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า iPhone 14 128GB สี Midnight ที่หายไปของคุณ ถูกค้นพบเรียบร้อยแล้ว"
"หากต้องการดูตำแหน่งปัจจุบันของอุปกรณ์ของคุณ โปรดคลิกลิงก์ด้านล่าง: <phishing url>"
"หากคุณไม่ได้เป็นผู้รายงานอุปกรณ์หาย หรือเชื่อว่าข้อความนี้ถูกส่งมาโดยผิดพลาด โปรดเพิกเฉยต่อข้อความนี้ หรือติดต่อทีมสนับสนุนของเราทันที"
ข้อความฟิชชิ่งมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ Find My ที่อ้างว่าแสดงตำแหน่งของอุปกรณ์
อย่างไรก็ตาม แทนที่จะนำไปสู่เว็บไซต์ทางการของ Apple มันกลับเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าฟิชชิ่งที่มีหน้าแจ้งให้ล็อกอินซึ่งเลียนแบบเว็บไซต์ Find My ของ Apple เมื่อเหยื่อกรอก Apple ID และรหัสผ่าน ข้อมูล credentials เหล่านั้นจะถูกส่งไปยังผู้โจมตี ทำให้พวกเขาเข้าถึงบัญชีได้อย่างเต็มรูปแบบ
หน่วยงานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อธิบายว่า เป้าหมายที่แท้จริงของมิจฉาชีพคือการปลดล็อกการเปิดใช้งาน (Activation Lock) ของ Apple คุณสมบัติด้านความปลอดภัยนี้ใช้เพื่อเชื่อมโยง iPhone เข้ากับ Apple ID ของเจ้าของ และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นลบข้อมูล หรือนำไปขายต่อ
เนื่องจากไม่มีวิธีในการ Bypass การล็อกนี้ อาชญากรจึงอาศัยการโจมตีแบบฟิชชิ่งเพื่อหลอกลวงให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลประจำตัวของตน
NCSC ระบุว่า ยังไม่รู้แน่ชัดว่าผู้โจมตีได้หมายเลขโทรศัพท์ของเป้าหมายมาได้อย่างไร แต่อาจมาจากซิมการ์ดในอุปกรณ์ หรือจากข้อความที่กำหนดเองที่แสดงบนหน้าจอล็อกเมื่ออุปกรณ์นั้นถูกรายงานว่าสูญหาย
หน่วยงานแนะนำให้ทำสิ่งต่อไปนี้:
ห้ามคลิกลิงก์ในข้อความที่คุณไม่ได้ร้องขอ หรือกรอกรายละเอียด Apple ID บนเว็บไซต์ภายนอก
หากอุปกรณ์สูญหาย ให้เปิดใช้งานโหมดสูญหาย (Lost Mode) ทันทีผ่านแอป Find My หรือ iCloud.
