ในช่วงก่อนหน้านี้ เรามักจะพบ Virus, Trojan, Worm ในการโจมตีระบบและเครื่องของเราทำให้เครื่องเราช้าและไม่สามารถใช้งานได้ แต่ในปัจจุบันพบว่ามีคนไทยไม่น้อยที่ติด Ransomware โดย Ransomware เป็น malware ที่มุ่งเป้าไปยังผู้ใช้งาน Windows และแพร่ผ่านการส่ง spam email ไปยังผู้ใช้งานต่างๆด้วยหัวข้อหรือคำพูดที่น่าสนใจหรือดึงดูดให้คนกดเข้าไปเพื่ออ่านหรือ download file แนบเหล่านั้น โดยเมื่อเครื่องผู้ใช้งานติด malware ประเภทนี้แล้ว จะทำการเข้ารหัสเอกสารข้อมูลต่างๆภายในเครื่องของเราทำให้เราไม่สามารถอ่านเอกสารเหล่านั้นได้ หรือในบางครั้งถึงกับ Lock เครื่องไว้ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าใช้งานเครื่องได้เลยทีเดียว จากนั้น Ransomware ก็จะแสดงข้อความขู่ผู้ใช้งานต่างๆนาๆ ให้โอนเงิน(โดยปัจจุบันมักจะให้จ่ายในรูปแบบของ Bitcoin) ให้กับ Hacker ก่อนที่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบทิ้งไป โดย Ransomware ตัวที่แพร่หลายมากในปัจจุบันคือ CryptoLocker และ Cryptowall นั่นเอง
ขั้นตอนการทำงานของ Ransomware
พยายามแพร่กระจายผ่านเว็บไซด์ต่างๆ, แนบไฟล์ไปใน email
เมื่อผู้ใช้งานเปิดใช้งานจะสร้าง service และฝังการทำงานของ service ไปยัง Registry ของเครื่อง เพื่อให้ทำงานทุกครั้งเมื่อมีการเปิดเครื่อง
Ransomware ติดต่อกลับไปยังเครื่อง C&C Server(Command and Control Server) ของ Hacker เพื่อ download key สำหรับการเข้ารหัสและ config ต่างๆของภายใน Ransomware พร้อมทั้งลงทะเบียนกับ C&C Server เพื่อระบุว่าเครื่องที่ติดอยู่ที่ใด
นำ Key และ config ที่ได้รับจาก C&C Server มาเข้ารหัสเอกสารข้อมูลต่างๆภายในเครื่อง
แสดงหน้าข่มขู่ผู้ใช้งานพร้อมกับบอก link สำหรับวิธีการโอน Bitcoin ไปให้กับ Hacker
วิธีการป้องกัน Ransomware
ไม่ download file จาก email หรือเว็บไซด์ใดๆที่ไม่น่าเชื่อถือ
Scan file ใดๆก็แล้วแต่ที่ถูกส่งมาใน email หรือที่ download จากเว็บไซด์ใดๆ ด้วย Antivirus ก่อนใช้งาน หรือหากไม่สะดวกในการใช้งาน Antivirus ให้ทำการ upload ไฟล์เหล่านั้นไปยังเว็บไซด์สำหรับการตรวจสอบ malware เช่น www.