Texan schoolgirl expelled for refusing to wear RFID tag

นักเรียนหญิงโรงเรียน John Jay High School ที่ชื่อว่า Andrea Hernandez ลาออกจากโรงเรียนเพื่อเป็นปฏิเสธการใช้ RFID tag ที่เป็นโครงการของเมืองซานอัลโตนิโอที่ต้องการเฝ้าระวังเด็กนักเรียนในเขต ให้สามารถติดตามตำแหน่งของเด็กนักเรียนได้จากการแขวนป้าย RFID tag ที่ตัวนักเรียน ส่วนเหตุผลที่เด็กนักเรียนคนดังกล่าวลาออกนั้น อ้างว่าคุกคามความเป็นส่วนตัวและเป็นเรื่องของการลบหลู่ศาสนา

ที่มา : theregister

Malware made which can share a smartcard over the internet

นักวิจัยจาก Itrust ออกมาแสดงวิธีการแฮกเข้าไปยังเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดที่ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีผ่านทาง usb ได้ โดยเขาได้ใช้มัลแวร์ที่สร้างขึ้นมาส่งเข้าไปติดตั้งในเครื่องที่ต่อเครื่องอ่าน smart card อยู่ โดยมัลแวร์จะทำตัวเหมือนกับ driver ซึ่งจะทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้งานเครื่องได้เหมือนกับเครื่องนั้นต่ออยู่กับเครื่องของแฮกเกอร์เอง ดังนั้นเมื่อเครื่องทำงาน แฮกเกอร์ก็จะสามารถขโมยข้อมูลของบัตรออกมาได้ แต่ว่าในมัลแวร์ตัวอย่างนี้ยังไม่สามารถขโมย pin ของบัตรที่ผู้ใช้กรอกผ่านคีย์บอร์ดได้

ที่มา : theregister

Hacker breach President of Sri Lanka website

เว็บไซต์ของประธานาธิบดีศรีลังกา (president.gov.lk) ถูกแฮกโดยแฮกเกอร์ที่ชื่อ "Broken-Security" โดยใช้ช่องโหว่  Blind SQL Injection  แฮกเกอร์ได้โพสต์ช่องโหว่ดังกล่าวบนเว็บไซต์ pastebin โดยเอาข้อมูลจาก Table Name และ  Column  ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูล  Username , password(ที่เข้ารหัสไว้) ของผู้ดูแลระบบ แต่แฮกเกอร์ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลในการแฮกแต่อย่างใด

ที่มา : thehackernews

Passteal : password-stealing malware disguised as keygen and ebooks

“Passteal” มัลแวร์ที่ขโมยพาสเวิดที่เก็บจากการใช้งานผ่านเบราเซอร์ด้วยการใช้โปรแกรมกู้คืนรหัสผ่านที่ชื่อว่า “WebBrowserPassView” ซึ่งมัลแวร์ตัวนี้จะปลอมมาในรูปแบบของ Key generators หรือ Ebooksโดยกลุ่มเป้าหมายของมัลแวร์นี้คือ กลุ่มคนที่เป็นผู้ใช้งาน Torrent และ file hosting เพราะมักจะเป็นที่ที่คนชอบเข้าไปโหลดซอฟท์แวร์เถื่อน หรือซอฟแวร์ที่แจกกัน ซึ่งมักจะมีโปรแกรม keygen อยู่ โดยการใช้งานผ่าน Internet Explorer ver.

Go Daddy Sites Serve Up Ransomware Malware

Go Daddy ผู้ให้บริการจดโดเมนและเว็ปโฮสติ้งเปิดเผยว่ามีเพียงเว็ปไซต์จำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ใช้บริการโฮสติ้งของตนและตกเป็นเป้าหมายของ DNS Attack ซึ่งเว็ปไซต์เหล่านั้นกำลังถูกใช้งานเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ประเภท Ransomware ทาง Go Daddy ยังกล่าวอีกว่าลูกค้าที่ได้รับกระทบนั้นอาจจะมีสาเหตุมาจากการติด “Cool Exploit” ที่เครื่องที่บ้านเองไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่มาจากช่องโหว่ของ My Account หรือ ระบบการจัดการ DNS โดยตัว “Cool Exploit” นี้โจมตีช่องโหว่ต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง Java Error อีกด้วย แพร่กระจายด้วย “drive-by attack website” (หมายถึง การโจมตีเว็ปไซต์และใช้เว็ปไซต์นั้นๆเป็นสื่อในการแพร่กระจายมัลแวร์ สคริปอันตรายหรือหน้าเพจที่แฮกเกอร์สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาข้อมูล เป็นต้น)

สำหรับ Ransomware ที่พบจากเว็ปไซต์ของ Go Daddy ที่ถูกโจมตีนั้นมีรูปแบบและความรุนแรงไม่เหมือนกัน เช่น ในประเทศอังกฤษมัลแวร์จะแสดงหน้าข้อความของ Police e-Crime Unit (PCeU) หรือตำรวจหน่วยปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอิเล็คโทนิค แจ้งว่าได้ล็อคเครื่องของเหยื่อ และตั้งข้อหาว่า “มีกิจกรรมบนโลกไซเบอร์ที่เป็นความผิด” และแจ้งให้เสียค่าปรับ

จากข่าวดังกล่าวแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่เพื่อฝัง Code อันตรายลงไปบนเว็ปไซต์ที่แฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไปไม่ควรคลิกลิงค์ ใดๆที่ถูกส่งมาในอีเมล หรือจากที่อื่นๆ แม้ว่าจะน่าเชื่อถือก็ตาม

ที่มา : thehackernews

Montreal group hacks away at corruption one spreadsheet at a time

เมืองมอนทรีอัลในแคนาดาได้ว่าจ้างบรรดาแฮกเกอร์จำนวนมากเพื่อมาทำโครงการที่ชื่อว่า “Hackathon” ซึ่งเป็นระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านการคอรัปชั่น โดยที่ระบบนี้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญทางราชการที่เกิดขึ้นของเมืองมอลทรีอัลเอง เช่น เอกสารสัญญาว่าจ้าง, เอกสารการประชุม, รายการ transaction ต่าง ๆ รวมถึงการติดต่อระหว่างหน่วยงาน เป็นต้น โดยให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปดูข้อมูลดังกล่าวได้ โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยโครงการนี้ประกอบไปด้วยแฮกเกอร์มากกว่า 100 คน ที่มีอายุระหว่าง 20 และ 30 ปี

ที่มา : yahoo

Win 8 malware uses Google Docs to talk to C&C

พบโทรจันที่เป็น Backdoor ตัวใหม่ ชื่อว่า “Mekadoc” ซึ่งเป็นโทรจันที่มีความสามารถที่จะทำงานได้แม้แต่บน Windows 8 และ Windows Server 2012 ที่พึ่งวางจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี้ โทรจันตัวนี้ถูกพบโดยนักวิจัยของ Symantec โดยอธิบายเกี่ยวกับโทรจันนี้เอาไว้ว่า มันจะมาให้รูปแบบของไฟล์ Word หรือ Rich Text Format ที่แนบมากับ Phishing email และใช้รูปแบบของการใช้งานฟีเจอร์ของ Google Doc ที่ชื่อว่า “Viewer” (เป็นฟีเจอร์ที่สามารถเปิดไฟล์เอกสารของผู้อื่นดูที่เครื่องส่วนตัวได้) ในการซ่อนการเชื่อมต่อของโทรจันที่ติดต่อกับ C&C Server ซึ่งแน่นอนว่าโทรจันดังกล่าวมีลักษณะของการขโมยข้อมูลจากเครื่องของเหยื่อออกไปนั้นเอง อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าจะมีการรายงานเกี่ยวกับการแพร่กระจายของมัลแวร์ดังกล่าวค่อยข้างน้อย เนื่องจากยังไม่ได้ใช้เพื่อการโจมตีอย่างแพร่หลายมากนัก(นักวิจัยของ Symantec กล่าวว่าพบเครื่องที่ติดน้อยกว่า 100 เครื่อง) แต่ทาง Symantec ได้แจ้งปัญหาดังกล่าวในทาง Google ทราบแล้ว และทาง Google ก็มีการพูดเอาไว้เพียงว่าหากว่ามีการแพร่หลายจนกลายเป็นเรื่องที่น่ากังวล ทาง Google ก็จะทำการตรวจสอบและจัดการกับปัญหานี้

ที่มา : scmagazine

Security breach hits Amazon.co.uk , 628 user id and password leaked

แฮกเกอร์กลุ่ม DARWINARE ออกมาเปิดเผยว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานของเว็บ amazon.co.uk จำนวน 628 บัญชี โดยข้อมูลที่ถูกขโมยไป ประกอบด้วย ราชละเอียดของฐานข้อมูล ข้อมูลผู้ใช้งาน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงพาสเวิดที่มีการเข้ารหัสไว้ ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปโพสไว้ในเว็บ pastebin.

Window 8 will get its first critical patch

ตั้งแต่ Windows 8 วางจำหน่ายออกมาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2012 ก็มีการออกแพทช์แรกของ Windows 8 รวมไปถึง Windows RT ด้วย แพทช์นี้มีการแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 3 ช่องโหว่ระดับ Critical ใน Windows 8 ซึ่งรวมไปถึงช่องโหว่ใน Internet Explorer 10 ที่ค้นพบโดยบริษัทด้านความปลอดภัย “VUPEN” ด้วยและอีก 1 ช่องโหว่ใน Windows RT โดยกำหนดการณ์การออกแพทช์ครั้งนี้คือวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน 2012

ที่มา : thehackernews

Guy Fawkes Day start with Hack of 28,000 Paypal Accounts

สำหรับวันที่ 5 พฤศจิกายน นั้นเป็นวัน Guy Fawkes Day ที่ระลึกถึงเหตุการณ์หนึ่งของนาย “Guy Fawkes” และเป็นวันที่น่าสนใจของกลุ่มคนบนโลกไซเบอร์ที่ควรจับตามองว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างบนโลกไซเบอร์ และเหตุการณ์ที่น่าสนสิ่งหนึ่งก็คือ Paypal ถูกแฮกโดยแฮกเกอร์กลุ่ม “Anonymous” โดยได้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานของ Twitter กว่า 28,000 บัญชี และนำข้อมูลไปโพสลงบน “Private Paste” โดยเป็นข้อมูลจากฐานข้อมูล Table ที่ชื่อว่า “mc_customers” ซึ่งมีทั้งข้อมูลอีเมล, ชื่อ,  รหัสผ่าน(ที่ถูกเข้ารหัสเอาไว้) และหมายเลขติดต่อ

อย่างไรก็ตาม ทาง Paypal ออกมาอ้างว่าพวกเขาได้ทำการตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันว่า Twiiter ถูกโจมตีจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จริงๆ

ที่มา : thehackernews