Google Patches Critical Flaws in Android’s System Component

Google ออกแพตซ์แก้ไขข้อบกพร่องที่สำคัญบน Android

สัปดาห์ที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัวชุดรักษาความปลอดภัยสำหรับ Android ประจำเดือนพฤศจิกายน เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่มีผลกระทบต่อแพลตฟอร์มเกือบ 40 ประกอบด้วยข้อบกพร่องทั้งหมด 17 รายการใน Framework, Library, Framework , Media framework และ System (2019-11-01) ช่องโหว่ที่รุนแรงที่สุดอยู่ในระดับ System ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งที่เป็นอันตรายจากระยะไกลตามสิทธิ์ของโปรเซสที่ใช้รัน ประกอบด้วยช่องโหว่ใน Android 9 (CVE-2019-2204), Android 8.0, 8.1, 9 และ 10 (CVE-2019-2205 และ CVE-2019-2206)

ช่องโหว่อื่นๆ อีกประมาณ 21 รายการ (2019-11-05) ประกอบด้วยช่องโหว่ที่น่าสนใจ คือ ช่องโหว่ความรุนแรงสูงในระดับ Framework 2 รายการ, ช่องโหว่ความรุนแรงสูงในระดับ System 1 รายการ และช่องโหว่ความรุนแรงสูง 3 รายการและความรุนแรงปานกลางอีก 1 รายการในระดับ Kernel โดยได้แก้ไขช่องโหว่ที่พบในส่วนของ Qualcomm ที่พบมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยช่องโหว่บน Pixel เองก็จะได้รับการแก้ไขในรอบนี้ด้วย

ที่มา: securityweek

Android September 2018 Patches Fix Critical Flaws

Google ได้ปล่อยแพทช์รักษาความปลอดภัยเดือนกันยายนปี 2018 สำหรับ Android ซึ่งแก้ไขปัญหาได้มากกว่า 50 ช่องโหว่

แพทช์รักษาความปลอดภัย Android ในเดือนกันยายน 2018 แบ่งออกเป็นสองส่วนคือระดับแพทช์การรักษาความปลอดภัย 2018-09-01 ซึ่งสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ 24 ข้อและแพทช์ความปลอดภัย 2018-09-05 ซึ่งมีข้อบกพร่องทั้งหมด 35 ข้อ

มี 5 ช่องโหว่ในแพทช์รักษาความปลอดภัย 2018-09-01 ได้รับการจัดอันดับความรุนแรง Critical 3 ช่องโหว่เป็นปัญหาเรื่องการยกระดับสิทธิพิเศษที่มีผลต่อระบบ ในขณะที่ส่วนที่เหลืออีก 2 ข้อเป็นช่องโหว่ในการเรียกใช้โค้ดจากระยะไกลใน Media framework

Google ยังกล่าวถึงช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงใน Android runtime, Framework, Library, Media framework และ System รวมถึงปัญหาความรุนแรงระดับปานกลาง 2 เรื่องใน Media framework and System ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อ Android เวอร์ชัน 7.0, 7.1.1, 7.1.2, 8.0, 8.1 และ 9.0 แต่มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่พบว่ามีผลต่อ Android 8.0 และแพลตฟอร์มใหม่ ๆ

35 ช่องโหว่ในแพทช์รักษาความปลอดภัย 2018-09-05 ซึ่ง 6 ช่องโหว่อยู่ในระดับความรุนแรง Critical, 27 ช่องโหว่อยู่ในระดับความรุนแรง High และ 2 ช่องโหว่ถือว่าเป็นความรุนแรงปานกลาง ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน Framework, Kernel components, และ Qualcomm components

ที่มา : securityweek