นักวิจัยจาก Trustwave บริษัทรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีการแฮกข้อมูลครั้งใหญ่ อันเป็นผลมาจากซอฟท์แวร์ keylogging ที่ติดไปยังคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่ามีคอมพิวเตอร์ติดไปแล้วกี่เครื่อง โดยไวรัสตัวนี้จะทำการดักจับข้อมูลเวลาที่คุณล็อกอินใช้งานเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ต่างๆในช่วงตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แล้วทำการส่งข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านกับไปให้แฮกเกอร์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางนักวิจัยของ Trustwave ได้ทำการติดตามข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งพบว่ามีการดักจับข้อมูลส่วนตัวมากกว่า 93,000 เว็บไซต์ดังนี้
เฟสบุ๊ค 318,000 บัญชีผู้ใช้
บัญชี Gmail, Google+ และ YouTube 70,000 บัญชี
Yahoo 60,000 บัญชี
ทวิตเตอร์ 22,000 บัญชี
Odnoklassniki สื่อสังคมออนไลน์ของรัสเซีย 9,000 บัญชี
ADP 8,000 บัญชี (แต่ทาง ADP อกมาบอกว่านับบัญชีที่ถูกแฮกได้นั้นมีแค่ 2,400 บัญชี)
LinkedIn 8,000 บัญชี
ปัจจุบันทางแฮกเกอร์เองได้ตั้งค่าให้โปรแกรม keylogging นี้ส่งข้อมูลผ่าน proxy server จึงยากที่จะรู้ว่าเครื่องไหนติดไวรัสนี้บ้าง เครื่องที่ติดไวรัสจำนวน 41,000 เครื่องเคยเชื่อมต่อ File Transfer Protocol (FTP) สำหรับส่งไฟล์ใหญ่ๆและอีก 6,000 เครื่องมีการ remote log-in แฮกเกอร์ได้ทำการแอบดูดข้อมูลอย่างลับๆตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมจนกระทั่งถึงตอนนี้ แม้ว่า Trustwave จะพบว่าไวรัสนี้จาก proxy server ของเนเธอร์แลนด์ แต่เค้าเชื่อว่าเซิร์ฟเวอร์อื่นๆที่คล้ายกันก็อาจจะโดนด้วยเพราะยังไม่มีการสำรวจที่แน่ชัด
ที่มา : CNNMoney