Fujitsu ยืนยันข้อมูลลูกค้ารั่วไหลในเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ช่วงเดือนมีนาคม

Fujitsu ยืนยันว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล และธุรกิจของลูกค้าบางรายรั่วไหลในเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ที่ตรวจพบเมื่อต้นปีนี้

บริษัท Fujitsu ระบุว่า การโจมตีไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์ แต่มีการใช้วิธีการที่ซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับในขณะที่ขโมยข้อมูลออกไป

โดยในช่วงเดือนมีนาคม บริษัทพบว่าระบบของบริษัทหลายระบบติดมัลแวร์ และสังเกตเห็นความเป็นไปได้ที่ข้อมูลที่มีความสำคัญของลูกค้าอาจถูก compromised

Fujitsu ได้แยกคอมพิวเตอร์ที่ได้รับผลกระทบ และเริ่มการสืบสวนโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกเพื่อกำหนดขอบเขตของการรั่วไหล

ผลการตรวจสอบ

ในแถลงการณ์วันนี้ บริษัทระบุว่าได้สรุปการสืบสวนเหตุการณ์ และยืนยันว่าข้อมูลถูกขโมยออกไปโดยมัลแวร์ที่แพร่กระจายจากจุดเริ่มต้นเพียงจุดเดียวไปยังคอมพิวเตอร์ 49 เครื่อง

บริษัทอธิบายเพิ่มเติมว่า "หลังจากมัลแวร์ถูกติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งของบริษัท ถูกพบว่ามันแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ"

"มัลแวร์นี้ไม่ใช่แรนซัมแวร์ แต่ใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการปลอมตัวทำให้ยากต่อการตรวจจับ ซึ่งเกิดจากการโจมตีขั้นสูง"

Fujitsu ระบุว่าคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์ทั้ง 49 เครื่องถูกแยกออกจากระบบอื่น ๆ ทันทีหลังจากพบการโจมตี และมัลแวร์ถูกจำกัดอยู่ในสภาพแวดล้อมเครือข่ายบริษัทในญี่ปุ่นเท่านั้น

บริษัทระบุว่า "คำสั่งในการคัดลอกไฟล์ถูกดำเนินการจากพฤติกรรมของมัลแวร์" ด้วยเหตุนี้ Fujitsu จึงระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ข้อมูลอาจถูกขโมยออกไป "ไฟล์ที่สามารถคัดลอกได้มีข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้า"

Fujitsu อธิบายเพิ่มเติมว่ายังไม่ได้รับรายงานว่าข้อมูลที่ถูก compromised ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หลังจากการวิเคราะห์มัลแวร์ และเหตุการณ์ Fujitsu ได้ใช้มาตรการการตรวจสอบด้านความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในบริษัท และอัปเดตโซลูชันตรวจจับมัลแวร์เพื่อป้องกันการโจมตีที่คล้ายกัน

ที่มา: bleepingcomputer

Nissan North America ข้อมูลรั่วไหลส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 53,000 คน

นิสสันอเมริกาเหนือประสบกับเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เมื่อผู้โจมตีสามารถเจาะระบบ VPN ของบริษัท และทำการปิดระบบเพื่อเรียกค่าไถ่

นิสสันตรวจพบข้อมูลรั่วไหลในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2023 และระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานปัจจุบัน และอดีตพนักงานกว่า 53,000 คนรั่วไหล

บริษัทระบุในหนังสือแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบว่า "ตามที่แจ้งในการประชุมทาวน์ฮอลล์ของนิสสันเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2023 นิสสันได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 ว่าบริษัทตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ หลังจากรับรู้ถึงการถูกโจมตี นิสสันได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทันที และเริ่มดำเนินการสืบสวน ควบคุมสถานการณ์ และสามารถจัดการกับภัยคุกคามได้สำเร็จ"

นิสสันเปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุมุ่งเป้าไปที่ระบบ VPN จากภายนอกของบริษัท จากนั้นได้ทำการปิดระบบบางส่วนของบริษัทก่อนที่จะเรียกร้องค่าไถ่ แต่บริษัทระบุว่าไม่มีระบบใดของบริษัทถูกเข้ารหัสระหว่างการโจมตี

โดยการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จากภายนอก บริษัทสามารถประเมินสถานการณ์ ควบคุมเหตุการณ์ และจัดการกับภัยคุกคามได้

การสอบสวนต่อมาเปิดเผยว่าผู้โจมตีได้เข้าถึงไฟล์บางส่วนใน local และ network shares ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2024 บริษัทได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานปัจจุบัน และอดีตพนักงานของนิสสันอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะหมายเลขประกันสังคมถูกเข้าถึงได้

ในหนังสือแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหลถึงสำนักงานทนายความทั่วไปของรัฐเมน บริษัทระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ และหมายเลขประกันสังคม และผู้โจมตีไม่ได้เข้าถึงข้อมูลทางการเงิน

โดยนิสสันระบุว่ายังไม่มีหลักฐานว่ามีการนำข้อมูลที่รั่วไหลไปใช้ในทางที่ผิด

อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากการรั่วไหลข้อมูลดังกล่าว นิสสันได้แนบคำแนะนำสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับวิธีสมัครใช้บริการเฝ้าระวังเครดิต และป้องกันการปลอมแปลงรายบุคคลฟรีนาน 24 เดือนผ่าน Experian

นิสสันเคยตกเป็นเป้าหมายของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายงานต่าง ๆ ของผู้ผลิตรถยนต์ชาวญี่ปุ่นรายนี้

ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2023 นิสสันโอเชียเนีย (ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ประกาศการสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ และการรั่วไหลของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น ในเดือนมีนาคม 2024 นิสสันยืนยันว่า Akira ransomware ได้ขโมยข้อมูลของลูกค้าออกไปกว่า 100,000 ราย

ในเดือนมกราคม 2023 นิสสันนอร์ทอเมริกาประสบกับเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลทางอ้อม เมื่อผู้ให้บริการเทคโนโลยี third-party ทำข้อมูลของลูกค้า 17,988 รายรั่วไหลเนื่องจากการตั้งค่าฐานข้อมูลที่ไม่เหมาะสม

สองปีก่อนหน้านั้น นิสสันนอร์ทอเมริกาปล่อยให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Git Server ออนไลน์โดยใช้รหัสผ่านเริ่มต้น (admin/admin) ทำให้ซอร์สโค้ดสำหรับแอปพลิเคชัน และเครื่องมือภายในขนาด 20 GB รั่วไหล

นิสสันตอบสนองโดยการนำ repository ลงเป็นออฟไลน์ ภายหลังจากได้รับแจ้งจากนักวิจัยที่พบผู้ใช้แชร์ซอร์สโค้ดผ่านทาง torrents

ที่มา: bleepingcomputer