เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 เมษายน 2025) CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่มีระดับความรุนแรงสูงสองรายการ ที่ส่งผลกระทบต่อ Broadcom Brocade Fabric OS และ Commvault Web Server ลงในบัญชีรายการ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) โดยอ้างอิงจากหลักฐานว่ากำลังถูกใช้ในการโจมตีจริงในโลกไซเบอร์
ช่องโหว่ดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้ :
CVE-2025-1976 (คะแนน CVSS: 8.6) - ช่องโหว่ code injection ที่ส่งผลกระทบต่อ Broadcom Brocade Fabric OS ซึ่งสามารถทำให้ผู้ใช้งานในระดับ local ที่มีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ สามารถเรียกใช้โค้ดใด ๆ ก็ได้ตามต้องการด้วยสิทธิ์ root อย่างเต็มรูปแบบได้
CVE-2025-3928 (คะแนน CVSS: 8.7) - ช่องโหว่ unspecified flaw ใน Commvault Web Server ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีจากภายนอกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว สามารถสร้าง และเรียกใช้ web shell ได้
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา Commvault ระบุว่า "การโจมตีช่องโหว่นี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูล Credentials ของผู้ใช้งานที่ผ่านการยืนยันตัวตนภายในสภาพแวดล้อมซอฟต์แวร์ของ Commvault"
ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ Commvault Web Server ในเวอร์ชั่นของ Windows และ Linux ดังต่อไปนี้ :
11.36.0 - 11.36.45 (แก้ไขแล้วในเวอร์ชั่น 11.36.46)
11.32.0 - 11.32.88 (แก้ไขแล้วในเวอร์ชั่น 11.32.89)
11.28.0 - 11.28.140 (แก้ไขแล้วในเวอร์ชั่น 11.28.141)
11.20.0 - 11.20.216 (แก้ไขแล้วในเวอร์ชั่น 11.20.217)
สำหรับช่องโหว่ CVE-2025-1976 นั้น ทาง Broadcom ระบุว่า เป็นช่องโหว่ในการตรวจสอบ IP Address ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานในระดับ local ที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ สามารถเรียกใช้โค้ดใด ๆ ก็ได้ตามต้องการด้วยสิทธิ์ root บน Fabric OS เวอร์ชั่น 9.1.0 ถึง 9.1.1d6 โดยช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขไปแล้วในเวอร์ชั่น 9.1.1d7
วันที่ 17 เมษายน 2025 ทาง Broadcom ระบุว่า "ช่องโหว่นี้สามารถทำให้ผู้ใช้งานเรียกใช้คำสั่งที่มีอยู่บน Fabric OS หรืออาจใช้เพื่อแก้ไข Fabric OS เอง รวมถึงการเพิ่ม subroutines ของตนเองได้"
"แม้ว่าการโจมตีนี้จะต้องมีการเข้าถึงระบบอย่างถูกต้อง จนไปถึงสิทธิ์ผู้ดูแลระบบก่อน แต่พบว่าช่องโหว่นี้กำลังถูกนำไปใช้ในการโจมตีจริงในโลกไซเบอร์แล้ว"
ปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับวิธีการที่ช่องโหว่ทั้งสองนี้ถูกนำไปใช้โจมตีในโลกไซเบอร์ ทั้งขนาดของการโจมตี และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเหล่านี้
หน่วยงานในสังกัด Federal Civilian Executive Branch (FCEB) ต้องติดตั้งแพตช์สำหรับ Commvault Web Server ภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2025 และสำหรับ Broadcom Brocade Fabric OS ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 ตามลำดับ เพื่อแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าว
ที่มา : thehackernews