Visa แจ้งเตือนการพบมัลแวร์ JSOutProx ชนิดใหม่ มุ่งเป้าไปที่สถาบันทางการเงิน

Visa ดำเนินการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการตรวจพบมัลแวร์ JSOutProx เวอร์ชันใหม่ที่มีเป้าหมายเป็นสถาบันทางการเงิน และลูกค้าของพวกเขา

การแจ้งเตือนจากหน่วยงาน Visa’s Payment Fraud Disruption (PFD) พบว่าถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่ทำหน้าที่ออกบัตร, ผู้ประมวลผล และผู้ใช้งานบัตร Visa ซึ่ง Visa ระบุว่า บริษัทได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามของแคมเปญฟิชชิ่ง (Phishing) รูปแบบใหม่ ที่กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายโทรจัน (Trojan) ในวันที่ 27 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา

แคมเปญนี้มุ่งเป้าไปที่สถาบันทางการเงินในตอนใต้ของเอเชีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (more…)

New PIN Verification Bypass Flaw Affects Visa Contactless Payments

นักวิจัยค้นพบช่องโหว่ใหม่ที่สามารถ Bypass การตรวจสอบ PIN บนบัตรเครดิตแบบ Contactless ของ Visa

นักวิจัย ETH จากซูริคได้เปิดเผยถึงช่องโหว่การ Bypass การตรวจสอบ PIN ของบัตรเครดิตแบบระบบ Contactless ของ Visa ที่ช่วยให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถใช้บัตรเครดิตของเหยื่อที่ถูกขโมยหรือหายทำการซื้อสินค้าโดยปราศจากรหัส PIN ของบัตรบัตรเครดิต ณ จุด Point of sale (PoS)

จากการเปิดเผยของนักวิจัย ETH ช่องโหว่ที่พบนั้นอยู่ในโปรโตคอล EMV (ย่อมาจาก Europay, Mastercard, และ Visa) ซึ่งเป็นมาตรฐานโปรโตคอลสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการชำระเงินด้วยสมาร์ทการ์ด โดยผู้ประสงค์ร้ายสามารถทำการโจมตีแบบ man-in-the-middle (MitM) ผ่านแอป Android ด้วยการสั่งให้เทอร์มินัลไม่ต้องทำการตรวจสอบ PIN เนื่องจากมีการตรวจสอบผู้ถือบัตรด้วยการดำเนินการบนอุปกรณ์ของผู้ถือบัตร เนื่องจากได้รับการยืนยันแล้วจากอุปกรณ์ของผู้ใช้และจะดำเนินการหักเงินในบัตรของผู้ใช้ในขึ้นต่อไป

นอกจากช่องโหว่ที่ถูกเปิดเผยนี้นักวิจัย ETH ยังพบช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Contactless ของ Visa และบัตร Mastercard อีกช่องโหว่หนึ่งคือผู้ประสงค์ร้ายสามารถแก้ไขข้อมูลเฉพาะที่เรียกว่า "Application Cryptogram" (AC) ก่อนที่จะส่งไปยังเทอร์มินัล PoS โดยทั่วไปบัตรที่ทำธุรกรรมแบบออฟไลน์จะใช้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการโดยตรงจากบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตรโดยไม่ต้องใช้หมายเลข PIN แต่เนื่องจากธุรกรรมเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบออนไลน์จึงมีความล่าช้า 24 ถึง 72 ชั่วโมงก่อนที่ธนาคารจะยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมโดยใช้การใช้ Cryptogram และจำนวนเงินที่ซื้อจะถูกหักออกจากบัญชี ผู้ประสงค์ร้ายสามารถใช้กลไกการประมวลผลที่ล่าช้านี้เพื่อใช้บัตรที่ทำการปลอมเเปลงทำธุรกรรมที่มีมูลค่าต่ำ ซึ่งกว่าธนาคารผู้ออกบัตรจะปฏิเสธธุรกรรมที่ใช้ Cryptogram ผิดพลาดผู้ประสงค์ร้ายก็ออกจากจุดที่ทำธุรกรรมแล้ว

นักวิจัย ETH กล่าวว่าช่องโหว่ที่ถุกค้นพบนั้นมีผลกระทบกับบัตรเครดิตแบบระบบ Contactless ของ Visa เช่น Visa Credit, Visa Debit, Visa Electron และ V Pay card ทั้งนี้ช่องโหว่ยังสามารถใช้กับบัตรที่ใช้โปรโตคอล EMV อย่าง Discover และ UnionPay ได้ด้วยอย่างไรก็ตามช่องโหว่ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อ Mastercard, American Express และ JCB ปัจจุบันนักวิจัยได้ทำการเเจ้ง Visa ให้ได้รับทราบถึงปัญหาแล้ว ส่วนรายละเอียดของช่องโหว่นั้นจะถูกนำเสนอในงาน IEEE Symposium on Security and Privacy ครั้งที่ 42 ที่จะจัดขึ้นในซานฟรานซิสโกในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ที่มา: thehackernews.