Google fixes major Gmail bug seven hours after exploit details go public

Google เเก้ไขช่องโหว่ที่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมเเปลงอีเมลเป็นใครก็ได้ใน Gmail และ G Suite หลังจากนิ่งเฉยมานานจนนักวิจัยทำการเปิดเผย

Google แก้ไขช่องโหว่ที่ส่งผลกระทบต่อ Gmail และ G Suite ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งอีเมลที่เป็นอันตรายโดยการปลอมแปลงเป็นผู้ใช้ Google หรือลูกค้าขององค์กรรายอื่นๆ ได้

ช่องโหว่ที่ถูกเเก้ไขนี้ถูกเปิดเผยโดย Allison Husain นักวิจัยด้านความปลอดภัยซึ่งได้รายงานถึงช่องโหว่ในระบบการตรวจสอบ Email routing ใน SPF (Sender Policy Framework) และ DMARC (Domain-based Message Authentication, Reporting, and Conformance) โดยช่องโหว่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งอีเมลในฐานะผู้ใช้รายอื่นหรือลูกค้า G Suite ได้โดยผ่าน Policy การตรวจสอบจาก SPF และ DMARC ซึ้งเป็นมาตฐานการตรวจสอบสแปมและการโจมตีแบบฟิชชิ่ง

Husain อธิบายอีกว่าช่องโหว่นั้มีด้วยกันอยู่ 2 ส่วนคือ

ส่วนเเรกนั้นจะช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมเเปลงอีเมลไปยังเกตเวย์อีเมลบนแบ็กเอนด์ของ Gmail และ G Suite ผู้โจมตีสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลของผู้โจมตีเชื่อมต่อเข้ากับ Gmail หรือ G Suite Backend เพื่อที่จะสามารถส่งเมลออกเป็นโดเมนของเหยื่อได้
ส่วนที่สองผู้โจมตีสามารถกำหนด Email routing rules เพื่อรับอีเมลและสามารถ Forward ต่อได้ในขณะเดียวกันก็สามารถปลอมแปลงอีเมลเป็นลูกค้า Gmail หรือ G Suite โดยใช้ฟีเจอร์ “Change envelope recipient” เพื่อใช้ผ่านการตรวจสอบของ SPF และ DMARC ซึ่งช่วยให้ผู้โจมตีสามารถสวมสิทธิ์เป็นลูกค้าและทำการส่งข้อความที่ปลอมแปลงได้

หลังจาก Husain พบช่องโหว่เธอได้ส่งรายงานช่องโหว่ให้ Google เเก้ไขเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาเเต่ Google กลับนิ่งเฉยและไม่ได้รับการเเก้ไขจนวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาเธอจึงตัดสินใจเปิดเผยช่องโหว่นี้สู่สาธารณะและไม่กี่ชั่วโมงต่อมา Google ได้ทำการเเก้ไขช่องโหว่โดยใช้เวลาในเเก้ไขไป 7 ชั่วโมง

ที่มา: zdnet | bleepingcomputer

FBI Warns of BEC Attacks Abusing Microsoft Office 365, Google G Suite

FBI เตือนการโจมตี BEC โดยใช้ Microsoft Office 365 และ Google G Suite
สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) เตือนพันธมิตรอุตสาหกรรมภาคเอกชนเกี่ยวกับการใช้ Microsoft Office 365 และ Google G Suite เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตี Business Email Compromise (BEC) โดยระหว่างมกราคม 2014 จนถึง ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา FBI ได้รับคำร้องเกี่ยวกับการหลอกลวงมูลค่ากว่า 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการโจมตีแบบ BEC ที่เน้นเหยื่อผู้ใช้งาน Microsoft Office 365 และ Google G Suite
อาชญากรไซเบอร์ย้ายไปที่บริการอีเมลบนคลาวด์เพื่อตามไปโจมตีการย้ายข้อมูลขององค์กรไปยังบริการคลาวด์เหมือนกัน โดยโจมตีผ่านทางแคมเปญ Phishing ขนาดใหญ่ เมื่อหลอกเอารหัสผ่านได้แล้วอาชญากรไซเบอร์จะบุกรุกบัญชีผู้ใช้งานเหล่านั้น แล้วจะวิเคราะห์เนื้อหาอีเมลในกล่องข้อความเพื่อค้นหาหลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงิน
อาชญากรไซเบอร์ใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากบัญชีที่ถูกโจมตีเพื่อทำการปลอมแปลงการสื่อสารทางอีเมลระหว่างธุรกิจที่ถูกบุกรุกและบุคคลที่สาม เช่น ผู้ขายหรือลูกค้า นักต้มตุ๋นจะปลอมตัวเป็นพนักงานขององค์กรที่ถูกบุกรุกในขณะนั้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจของพวกเขา เพื่อพยายามที่จะเปลี่ยนเส้นทางการชำระเงินระหว่างพวกเขา ไปยังบัญชีธนาคารของผู้โจมตี พวกเขาจะขโมยรายชื่อผู้ติดต่อจำนวนมากจากบัญชีอีเมลที่ถูกแฮก แล้วจะเอาไปใช้เพื่อโจมตีแบบ Phishing อื่นๆ ในภายหลัง
แม้ว่าทั้ง Microsoft Office 365 และ Google G Suite มาพร้อมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่สามารถช่วยป้องกันการหลอกลวง BEC ได้ เเต่หลายคุณลักษณะของมันต้องกำหนดค่าและเปิดใช้งานเองโดยผู้ดูแลระบบไอทีและทีมรักษาความปลอดภัย ด้วยเหตุนี้องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางหรือองค์กรที่มีทรัพยากรด้านไอที จำกัดจึงเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยการหลอกลวง BEC มากที่สุด FBI กล่าว

FBI ให้คำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี BEC ดังต่อไปนี้:

ตั้งค่าห้ามไม่ให้มีการส่งต่ออีเมลโดยอัตโนมัติไปยังอีเมลภายนอกองค์กร
เพิ่มแบนเนอร์อีเมลเตือนเมื่อมีข้อความที่มาจากภายนอกองค์กรของคุณ
ห้ามใช้โปรโตคอลอีเมลดั้งเดิมเช่น POP, IMAP และ SMTP ที่สามารถใช้เพื่อหลีกเลี่ยง Multi-factor authentication
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า log การเข้าสู่ระบบกล่องจดหมายและการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้รับการบันทึกและเก็บรักษาไว้อย่างน้อย 90 วัน
เปิดใช้งานการเเจ้งเตือน สำหรับพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การ Login จากต่างประเทศ
เปิดใช้งานคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่บล็อกอีเมลที่เป็นอันตราย เช่น Anti-phishing เเละ Anti-spoofing policy
กำหนดค่า Sender Policy Framework (SPF), DomainKeys Identified Mail (DKIM), เเละ Domain-based Message Authentication Reporting เเละ Conformance (DMARC) เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และการตรวจสอบอีเมล
ปิดใช้งาน Authentication ของบัญชีเก่าที่ไม่ได้ใช้งานเเล้ว

ผู้ใช้ยังสามารถใช้มาตรการเหล่านี้เพื่อป้องกันการหลอกลวง BEC:

เปิดใช้งาน Multi-factor authentication สำหรับบัญชีอีเมลทั้งหมด
ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการชำระเงิน และธุรกรรมทั้งหมดด้วยตนเอง หรือผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่รู้จัก
ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการหลอกลวงของ BEC รวมถึงกลยุทธ์การป้องกัน เช่นวิธีการระบุอีเมลฟิชชิ่ง และวิธีการตอบสนองต่อการถูกโจมตีที่น่าสงสัย

ที่มา : bleepingcomputer

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BEC ได้จากบทความ "รู้จัก Business Email Compromise (BEC) การโจมตีผ่านอีเมลเพื่อหลอกเอาเงินจากองค์กร" i-secure