Digital Transform อย่างปลอดภัยด้วย SOC as a Service จาก ไอ-ซีเคียว

เนื่องจากภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีความหลากหลายและซับซ้อนในรูปแบบ วิธีการ อีกทั้งช่องทางของการโจมตีก็เพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน

สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายองค์กรต้องหาวิธีการป้องกันการโจมตีเหล่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วยเครื่องมือหลากหลายชนิด ที่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับช่องทางของการโจมตี อาทิเช่น Next-Generation Firewall, Web Application Firewall, Database Firewall, Next-Generation Endpoint และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย

 

ด้วยปัจจัยทางด้านความหลากหลายของเครื่องมือ ส่งผลให้แต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญ (Expert Cyber Security Engineer) ที่มีทักษะและความชำนาญในเครื่องมือดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะทำการดูแลรักษาและปรับแต่งค่าของระบบให้สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ๆ ได้เสมอ

สิ่งสำคัญคือผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะต้องทำการเฝ้าระวังฯ เหตุการณ์ภัยคุกคามฯ โดยความท้าทายของการเฝ้าระวังฯ นั่นก็คือปริมาณของการแจ้งเตือน (Alerts) ที่เกิดขึ้นจาก Logs การใช้งานของแต่ละเครื่องมือ ซึ่งอาจจะมีปริมาณการแจ้งเตือนที่จำนวนมาก เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้งานไม่ได้ทำการปรับ policy ที่เหมาะสม  ทำให้เกิด false positive สูงตามมา อีกปัจจัยหนึ่งคือไม่ได้มีการจัดทำ Log Correlations รวมถึงไม่มี process ในการตอบสนอง และรับมือต่อภัยคุกคามฯ ที่เป็นมาตรฐานชัดเจน

 
องค์ประกอบหลักในการมองหาผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ
จากปัญหาดังกล่าว หลายๆ องค์กรจึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบทางด้าน Cyber Security หรือเริ่มมองหาผู้ให้บริการที่มีศูนย์เฝ้าระวังและปฏิบัติการด้านความปลอดภัยสารสนเทศ (Security Operation Center - SOC) เข้ามาทำหน้าเฝ้าระวังและตอบสนองต่อเหตุการณ์ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

ทั้งนี้ปัจจัยหลัก ๆ ในการมองหาผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้

People: ทีมงาน, ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและความชำนาญเฉพาะทางด้าน Cyber Security และต้องสามารถบริหารจัดการ (Operate) แบบ 24x7 ได้ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ (Skills) ให้กับทีมงานให้มีความเชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันเพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงานทดแทนกันได้
Technology: การลงทุนระบบที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับภัยคุกคามโดยเฉพาะ (Technology) โดยองค์กรต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ (Hardware และ/หรือ Software) ของ Security Information & Event Management (SIEM) รวมไปถึง ฐานข้อมูลแหล่งข่าวอัจฉริยะในการเฝ้าระวังภัยคุกคามฯ (Threat Intelligent) เพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูลภัยคุกคามฯ จากทั่วโลก
Process: กระบวนการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานในการตอบสนองต่อเหตุการณ์กรณีที่มีภัยคุกคามเกิดขึ้น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับรูปแบบของภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่เสมอ

 

ภาพแสดงส่วนประกอบหลักของการจัดทำศูนย์เฝ้าระวังและปฏิบัติการด้านความปลอดภัยสารสนเทศ (Security Operation Center - SOC)

 
7 คุณลักษณะที่บริการ SOCaaS จำเป็นต้องมี
การลงทุน ทั้ง 3 องค์ประกอบข้างต้น หลายๆองค์กรจึงเลือกใช้บริการแบบ SOCaaS (SOC as a Service) แทนการจัดตั้งศูนย์ SOC เป็นขององค์กรเอง โดยคุณลักษณะที่บริการ SOCaaS จำเป็นต้องมีดังต่อไปนี้

ระบบจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 พร้อมศูนย์สำรองข้อมูลของผู้ให้บริการ (DR Site) เพื่อสำรองข้อมูลอย่างน้อย 1 สำเนา
ระบบ Security Information & Event Management (SIEM) สำหรับให้บริการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามฯ พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงรูปแบบการตรวจสอบ (Use Case Development) ให้ทันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบัน โดยทำงานร่วมกับระบบฐานข้อมูลแหล่งข่าวอัจฉริยะในการเฝ้าระวังภัยคุกคามฯ (Threat Intelligent) ได้
มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Data Collection and Data Processing), ทีมบริหารจัดการระบบเชื่อมโยงความสัมพันธ์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (SIEM Administrator & Architecture)
มีทีมผู้เชี่ยวชาญซี่งมีหน้าที่เฝ้าระวังและวิเคราะห์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าทำการตอบสนองเบื้องต้นต่อเหตุการณ์เมื่อมีการแจ้งเตือนจากระบบ (Event Intake) ตอบสนองเหตุการณ์ที่อยู่ในข่ายเป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Incident Intake), ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อยู่ในข่ายเป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ พร้อมคำแนะนำในการรับมือหรือป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต รวมไปถึงให้คำปรึกษาในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย (Incident/Cybersecurity Advisory)
มีทีมผู้เชี่ยวชาญซี่งมีหน้าที่ศึกษา ติดตาม และค้นคว้าเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนารูปแบบและเทคนิคการตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ของระบบเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา (Threat Hunting)
มีมาตราฐานการดำเนิน (Security Operation Procedure) เพื่อการดำเนินการตามมาตราฐานหากเจอภัยคุกคามฯ และมีการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
มีรายงานสรุปภัยคุกคามที่เกิดขึ้น พร้อมคำแนะนำ และ/หรือ วิธีการแก้ไข พร้อมผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา

ภาพแสดงส่วนประกอบหลักของการบริการแบบ SOCaaS (SOC as a Service)

 
สิ่งที่องค์กรจะได้รับจากการใช้บริการแบบ SOCaaS (SOC as a Service) 

ลดระยะเวลาการแก้ไขปัญหา และทราบถึงสาเหตุของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบทางธุรกิจหรือกิจการให้เหลือน้อยที่สุด
ลดความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้ง (Implementation) และบริหารจัดการระบบ SIEM (Main tenant และ Support)
องค์กรสามารถโฟกัสทรัพยากรบุคคลและทรัพยากรทางด้านเวลาไปยังงานส่วนอื่นๆ ที่มีความสำคัญและส่งผลประโยชน์กับธุรกิจ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับ Certified และประสบการณ์ต่างๆ ทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยฯ คอยดูแลระบบให้อยู่เบื้องหลัง
ได้รับการเฝ้าระวัง, แจ้งเตือน และป้องกันตลอดระยะเวลา 24x7x365 หากมีภัยคุกคามเกิดขึ้นกับระบบที่มีความสำคัญในองค์กร
สามารถปรับลดเพิ่มได้ตามปริมาณการใช้งานระหว่างอายุสัญญา โดยไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์ใด ๆ เพิ่มเติม (Scalable)

 

บริษัท ไอ-ซีเคียว จำกัด (i-secure Company Limited) ก่อตั้งขึ้นโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล โดยมีการดำเนินงานแบบมืออาชีพในการให้บริการแก่ลูกค้า โดยมีจุดเด่น ดังต่อไปนี้

มีประสบการณ์ตรงในการให้บริการทางด้าน SOCaaS (SOC as a Service) มากกว่า 16 ปี
มีลูกค้าในระดับองค์กรที่ไว้วางใจในการใช้บริการ SOCaaS มากกว่า 120 ราย
ศูนย์เฝ้าระวังฯ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013) และคุณภาพของบริการ (ISO/IEC 20000-1:2018)
มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครอบคลุมการให้บริการหลักๆ ในแต่ละด้าน คอยเฝ้าระวัง และให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

 

สำหรับองค์กรที่สนใจบริการ SOCaaS (SOC as a Service)

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร: (+66) 2-615-7005
อีเมล: marketing@i-secure.

พาอ่านงานวิจัย “ทำไม Security Analyst ถึง Burnout และเราทำอย่างไรกับปัญหานี้ได้บ้าง?”

หนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน Security Operation Center (SOC) นั้นนอกเหนือจากการมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน คือกำลังของเหล่า Security Analyst ซึ่งเป็นด่านแรกในการรับมือกับการเกิดขึ้นของการโจมตีทางไซเบอร์และภัยคุกคาม ประสิทธิภาพและผลิตภาพจากกำลังหลักนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนประสิทธิภาพของ SOC และในขณะเดียวกันการขาดซึ่งประสิทธิภาพและผลิตภาพก็ส่งผลด้านลบอย่างรุนแรงต่อ SOC ด้วยเช่นเดียวกัน

ในบทความนี้ทีมตอบสนองการโจมตีและภัยคุกคาม (Intelligent Response) จาก บริษัท ไอ-ซีเคียว จำกัดจะขอพักการใช้ทักษะทางด้านเทคนิคของเรามาโฟกัสที่คำถามที่สำคัญสำหรับเหล่า Security Analyst, SOC Operator และ SOC Manager นั่นคือคำถามว่าปัจจัยใดที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเรา และในขณะเดียวกันอะไรที่ทำให้เราไม่มีประสิทธิภาพ แล้วเราสามารถทำอะไรกับมันได้สำหรับปัญหาเหล่านี้

บทความนี้อ้างอิงเนื้อหาโดยส่วนใหญ่มาจากงานวิจัยชื่อ A Human Capital Model for Mitigating Security Analyst Burnout โดย Sathya Chandran และคณะ ซึ่งสามารถดาวโหลดงานวิจัยฉบับเต็มได้ตามลิงค์ที่แนบมาครับ
รายละเอียดการทำวิจัย
ในส่วนแรกของบทความนี้ เราขออธิบายรายละเอียดและที่มาของประเด็นและข้อเสนอที่จะถูกนำเสนอในหัวข้อต่างๆ โดยการพูดถึงกระบวนการทำวิจัย ตัวแปรและทฤษฎีที่สำคัญและข้อจำกัดของงานวิจัยนี้ครับ

เป้าหมายหลักสำคัญของงานวิจัยนี้คือการพุ่งเป้าเพื่อหาคำตอบและวิธีการในการรักษาศักยภาพในการทำงานของกลุ่มอาชีพ Security analyst ซึ่งนำไปสู่การค้นหาว่าปัจจัยใดที่ลดประสิทธิภาพในการทำงานและประเด็นว่าด้วยเรื่องของการ Burnout

งานวิจัยนี้ใช้วิธีการศึกษาโดยให้นักวิจัยมาเข้าร่วมกับสังคมที่จะทำการศึกษา ร่วมปฏิบัติงานด้วยกันและพยายามปฏิบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อใจและการยอมรับ โดยในระหว่างนี้นักวิจัยจะทำการบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันภายใน SOC เพื่อนำมาประเมินผล รวมเวลาเก็บข้อมูลทั้งสิ้นทั้งหมด 6 เดือน

ข้อมูลประจำวันที่ได้จากการบันทึกจะถูกนำมาประเมินผลด้วยทฤษฎี Grounded theory ซึ่งเป็นหลักทฤษฎีของการศึกษาปรากฎการณ์ทางสังคมเพื่อสร้างทฤษฎีหรือโมเดลมาอธิบายปัจจัยที่เกี่ยวข้องผ่านทางการให้เหตุผลแบบอุปนัย (Inductive reasoning) จากข้อมูลที่ทำการรวบรวมมา นิยามและคุณลักษณะจะถูกกำหนดให้กับข้อมูลก่อนจะถูกนำมาจับกลุ่มตามความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างนิยาม

ตัวอย่างของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมมาจากนักวิจัยซึ่งทำงานกับร่วมกับทีม SOC เช่น
ในระหว่างที่ทำการวิเคราะห์เหตุการณ์ภัยคุกคาม ฉันได้ให้คำแนะนำแก่ Security analyst คนอื่นว่าเราควรลองเข้าถึงระบบ Domain controller เพื่อหาและเก็บข้อมูลที่สำคัญเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม Security analyst อีกคนหนึ่งกล่าวว่าการเข้าถึง Domain controller เป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงเกินไปสำหรับ Security analyst
ตัวอย่างข้อมูลนี้จะถูกนิยามและให้คุณลักษณะไว้ว่าเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบ (liability) และการถูกไม่ได้รับหรือถูกจำกัดสิทธิ์ที่ควรได้รับเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง (restricted of empowerment) หลังจากนั้นด้วยข้อมูลและการให้นิยามอื่นๆ ที่แตกต่างกัน นิยามและคุณลักษณะจะถูกจับกลุ่มและรวบรวมให้กลายเป็นประเด็นใหญ่สุดท้ายเพื่อสร้างเป็นโมเดลในการอธิบายพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกัน

ส่วนของการเก็บข้อมูล ศึกษาข้อมูลและพัฒนาโมเดลเพื่ออธิบายพฤติกรรมของ Security analyst ถูกดำเนินการใน SOC ของบริษัททางด้านไอทีที่มีลักษณะของผู้ให้บริการในสหรัฐอเมริกา โดยผลลัพธ์โมเดลที่ได้จากการทำวิจัยนั้นถูกนำมาตรวจสอบกับ SOC ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน  ทังนี้รายละเอียดของบุคลากร SOC รวมไปถึงการแบ่งหน้าที่ เพศ และประสบการณ์ในการทำงานสามารถอ่านได้เพิ่มเติมจากในหัวข้อที่ 4 Fieldwork Setup และหัวข้อที่ 5 SOC Demography
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงานของ Security Analyst
ภายใต้งานวิจัยนี้นิยามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงานของ Security analyst ตามแนวคิดเรื่องทุนมนุษย์ (Human capital) ซึ่งหมายถึงทรัพยากรที่คนหรือกลุ่มคนมี เช่น ความรู้และความเชี่ยวชาญ, ทักษะและประสบการณ์, ความคิดสร้างสรรค์และคุณสมบัติอื่นๆ ที่คนหรือกลุ่มคนพึงมี การที่ Security analyst สามารถสร้างและพัฒนาทุนมนุษย์ได้อย่างเหมาะสมสามารถการันตีความมีประสิทธิภาพของ SOC ในด้านกำลังคนได้

ทุนมนุษย์ของ Security analyst ถูกสร้าง รักษาและพัฒนาจาก 4 ปัจจัยหลัก โดยแต่ละปัจจัยจะมีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันในมุมที่ว่าปัจจัยก่อนหน้ามีความจำเป็นต่อการมีอยู่และคุณภาพของปัจจัยต่อไป

ความสามารถ (Skills)
อำนาจและสิทธิ์ในการดำเนินการ (Empowerment)
ความสร้างสรรค์ (Creativity)
การพัฒนาและเติบโตของศักยภาพ (Growth)

เราสามารถใช้ 4 ปัจจัยนี้ในการอธิบายทุนมนุษย์ของ Security analyst ได้ดังนี้

Security analyst จะต้องมีความสามารถ (Skills) ที่ตรงกับสิ่งที่ทำรวมไปถึงมีศักยภาพที่เหมาะสม เนื่องจากงานของ SOC นั้นเกี่ยวข้องกับระบบของผู้อื่นรวมไปถึงการตัดสินใจ หากปราศจากซึ่งความสามารถที่เหมาะสมก็ย่อมแยกที่ Security analyst จะสามารถมีคุณลักษณะในขั้นต่อไปได้
เมื่อมีความสามารถที่เหมาะสมแล้ว Security analyst ควรจะได้รับอำนาจและสิทธิ์ในการดำเนินการ (Empowerment) ซึ่งรวมไปถึงการรับผิดชอบในหน้าที่ การมีอำนาจและสิทธิ์นี้สร้างช่องทางให้ Security analyst สามารถทำสิ่งใหม่หรือเสนอวิธีการใหม่ในการทำงานที่จะสร้างผลลัพธ์และเป็นโมเมนตัมในการทำงานและพัฒนาตนเองต่อไปได้ และยังนำไปสู่ประเด็นในเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจด้วย
ด้วยการมีอำนาจและสิทธิ์ในการดำเนินงานตามความเหมาะสมเป็นใบเบิกทาง Security analyst จะได้รับสิทธิ์ในการที่จะสามารถรับมือและมีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหากับสถานการณ์ใหม่ที่อยู่นอกเหนือจาก Procedure ที่ SOC มี การขาดซึ่งความสร้างสรรค์ (Creativity) ในการทำงานจะส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายเมื่อต้องทำงานเดิมซ้ำๆ และทำให้โอกาสเกิดข้อผิดพลาดมีมากขึ้นด้วย
การได้รับโอกาสเพื่อทำสิ่งใหม่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและเติบโตของศักยภาพ (Growth) และส่งผลให้ Security analyst รู้สึกประสบความสำเร็จและมีจุดมุ่งหมาย การพัฒนาและเติบโตของศักยภาพสามารถเกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือผ่านทางการโยกย้ายหน้าที่ไปยังหน้าที่ที่เหมาะสมตามความสามารถ

อ้างอิงจากงานวิจัย โมเดลซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการวิจัยได้อธิบายว่าความรู้สึก Burnout ของ Security analyst จะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาติดอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่งของปัจจัยเหล่านี้ไปเรื่อยๆ และไม่สามารถพัฒนาขึ้นไปได้

นอกเหนือจากปัจจัยเฉพาะบุคคลในเรื่องของทุนมนุษย์ งานวิจัยยังเสนอปัจจัยภายนอกอีก 3 ปัจจัยที่สามารถกระทบต่อปัจจัยในเรื่องของทุนมนุษย์ได้ ได้แก่

การทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) หากเกิดขึ้นก็สามารถช่วยงานซ้ำซ้อนใน SOC ได้และทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างหลายฝ่ายซึ่งทำให้เกิดลักษณะงานที่ท้าทายและแปลกใหม่ ทั้งนี้มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิดการตรวจสอบกระบวนการทำงานอย่างจริงจังว่าเกิดข้อจำกัดขึ้นในส่วนใด การขาดซึ่งการทำงานแบบอัตโนมัติส่งผลให้ Security analyst ถูกบังคับให้ทำงานซ้ำซ้อนซึ่งทำให้สูญเสียโอกาสในการพัฒนา Skills และ Creativity ไป
ประสิทธิภาพในเชิงปฏิบัติการ (Operational Efficiency) ปัจจัยนี้ถูกอธิบายในมุมของหาก SOC สามารถปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ Security analyst จะได้รับอิทธิพลจากสิ่งนี้และส่งผลกระทบต่อทุนมนุษย์ภายในตัวของเขาเอง ความมีประสิทธิภาพในเชิงปฏิบัติการนั้นร่วมไปถึงการทำงานแบบอัตโนมัติที่ช่วยลดงานซ้ำหรือการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การทำงานนั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น
ตัวชี้วัด (Metrics) เนื่องจาก SOC เป็นกระบวนการที่มีการลงทุนสูง การเกิดขึ้นของตัวชี้วัดในงานวิจัยนี้จึงเป็นถูกนำมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่กลุ่มของผู้บริหารกำหนดและประเมินรวมไปถึงความคาดหวังต่อกิจกรรมและผลลัพธ์ที่ได้ของ SOC หากตัวชี้วัดถูกกำหนดขึ้นอย่างไม่เหมาะสม นั่นหมายถึงการประเมินที่ผิดพลาดในประสิทธิภาพในเชิงปฏิบัติการและอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาทุนมนุษย์และปัจจัยอื่นๆ ไป งานวิจัยนี้ยังคงไม่อาจสรุปได้ถึงตัวชี้วัดที่เหมาะสมในการประเมินประสิทธิภาพในเชิงปฏิบัติการ โดยเสนอเพียงแค่ผลกระทบที่มีเท่านั้น

งานวิจัยนี้ยังคงมีข้อจำกัดในหลายประเด็น อาทิ กระบวนการพัฒนาโมเดลเพื่ออธิบายปรากฎการณ์ทางสังคมรวมไปถึงกระบวนการทดสอบเกิดขึ้นกับ SOC เพียงไม่กี่ราย ซึ่งอาจทำให้โมเดลไม่ได้สะท้อนถึงความจริงได้อย่างแม่นจำ และด้วยข้อจำกัดที่ผู้ทำวิจัยจะต้องเข้าร่วมในกระบวนการทำงานของ SOC เป็นระยะเวลาที่นานซึ่งทำให้ความหลากหลายของสภาพแวดล้อมในการทำวิจัยเกิดขึ้นได้ยาก รวมไปถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการเก็บข้อมูล ผลลัพธ์จากงานวิจัยนี้จึงสมควรที่จะถูกตั้งคำถามและพิสูจน์เพื่อการพัฒนาต่อไป
สรุป
งานวิจัย A Human Capital Model for Mitigating Security Analyst Burnout นี้ผูกประเด็นปัญหาของการ Burnout ใน Security analyst ไว้กับประเด็นเรื่องของทุนมนุษย์อันได้แก่ ความสามารถ, สิทธิ์และอำนาจนการดำเนินการ, ความสร้างสรรค์และการพัฒนาและเติบโตของศักยภาพ พร้อมกับปัจจัยภายนอกอื่นๆ เป็นหลัก โดยได้เสนอในมุมว่าประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการทำงานขึ้นอยู่กับการสร้าง พัฒนาและรักษาตัวแปรเหล่านี้เอาไว้ ในขณะเดียวกันปัญหาของการ Burnout เกิดจากการไม่สามารถสร้าง พัฒนาและรักษาตัวแปรเหล่านี้เอาไว้ได้

แม้ว่างานวิจัยจะสามารถนำเสนอโมเดลเพื่อให้เราได้นำมาทดสอบและพิสูจน์ถึงความแม่นยำกันต่อไป โมเดลและทฤษฎีซึ่งนำเสนอตัวแปรของพฤติกรรมในสังคมก็ยังคงทำหน้าที่ได้เพียงชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของกลุ่มปัจจัยหนึ่งจากปัจจัยมากมายที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของ Security analyst การควบคุมปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพก็ยังคงไม่ชัดเจนและเหลือทิ้งไว้เป็นคำถามต่อไปว่า Manager และ Executive ควรจะบริหารและจัดการ รวมไปถึงบาลานซ์ปัจจัยต่างๆ ให้เหมาะสมได้อย่างไรเพื่อให้ทุนมนุษย์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องสามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและปราศจากผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ได้มากที่สุด