Palo Alto Networks แก้ไขช่องโหว่ CVE-2020-2034 บน PAN-OS

Palo Alto Networks (PAN) ได้กล่าวถึงช่องโหว่ที่รุนแรงอีกครั้งที่พบใน PAN-OS GlobalProtect portal และส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ Next generation firewall

CVE-2020-2034 เป็นช่องโหว่เกี่ยวกับ OS command injecton ทำให้ผู้โจมตีสามารถ Remote โดยไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์และสามารถรัน OS command โดยใช้สิทธิ์ root บนอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตแพตซ์ โดยช่องโหว่นี้สามารถทำได้ยากและมีความซับซ้อน ผู้โจมตีต้องการข้อมูลระดับหนึ่งเกี่ยวกับการกำหนดค่าไฟร์วอลล์ที่ได้รับผลกระทบ ช่องโหว่ CVE-2020-2034 ได้รับการจัดอันดับความรุนแรงสูงด้วยคะแนนฐาน CVSS 3.x ที่ Score 8.1

ช่องโหว่นี้มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน GlobalProtect portal เท่านั้น ช่องโหว่นี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ ในขณะเดียวกันบริการ Prisma Access ไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้

ช่องโหว่นี้ได้ถูกแก้ไขแล้ว โดยผู้ใช้ต้องอัปเดตแพทซ์ในเวอร์ชันที่มากกว่าหรือเท่ากับ PAN-OS 8.1.15, PAN-OS 9.0.9, PAN-OS 9.1.3 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่าทั้งหมด ส่วน Version PAN-OS 7.1 และ PAN-OS 8.0 จะไม่ได้รับการแก้ไขสำหรับช่องโหว่นี้

ที่มา: bleepingcomputer

Critical RCE Vulnerability Found in Palo Alto Networks VPN Product

Palo Alto Networks ออกแพทช์อัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน GlobalProtect portal และ GlobalProtect Gateway

Orange Tsai และ Meh Chang ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยค้นพบช่องโหว่ remote code-execution (RCE) ใน GlobalProtect portal และ GlobalProtect Gateway โดยช่องโหว่ดังกล่าวได้รับ CVE-2019-1579 ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวทำให้่ให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันโปรแกรมที่เป็นอันตรายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบ โดยทีมนักวิจัยได้ทำการเผยแพร่ PoC code สำหรับช่องโหว่ดังกล่าวและอธิบายวิธีการตรวจสอบว่าการติดตั้งมีความเสี่ยงหรือไม่โดยใช้คำสั่งแบบง่าย

ช่องโหว่ดังกล่าวเกิดจาก Gateway ส่งต่อค่าพารามิเตอร์โดยตรง ไม่มีการตรวจสอบและกำจัดค่าที่อาจเป็นอันตราย โดยมีผลกระทบกับ PAN-OS 7.1.18 และรุ่นก่อนหน้า, PAN-OS 8.0.11 และก่อนหน้าและ PAN-OS 8.1.2 และก่อนหน้า ในส่วนของ PAN-OS 9.0 ไม่ได้รับผลกระทบ

Palo Alto Networks ได้ทำการออกอัปเดต PAN-OS เวอร์ชันเป็น 7.1.19, 8.0.12 และ 8.1.3 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด แนะนำให้ทำการอัปเดตแพตช์เพื่อลดเสี่ยงในการถูกโจมตี

ที่มา:securityweek