Microsoft เปิดเผยรายละเอียดช่องโหว่ความปลอดภัยบน macOS ที่ทำให้ Attacker เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานได้

 

 

Microsoft ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยบน macOS ที่ถูกแพตช์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวสามารถทำให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลของผู้งานได้

 

ช่องโหว่นี้ได้รับหมายเลข CVE-2021-30970 โดยเกิดจากปัญหาทางด้าน Logic ของระบบ Transparency, Consent and Control (TCC) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลการตั้งค่า Privacy และการปกป้องไฟล์ และข้อมูลของแอพพลิเคชันต่าง ๆ โดยหน้าต่าง Security & Privacy ในหน้าการตั้งค่าแอปพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการ macOS นั้นทำงานเป็น Front-end ของ TCC

 

ทีมนักวิจัยของ Microsoft 365 Defender ได้รายงานช่องโหว่นี้ให้กับ Apple ในเดือนกรกฎาคม 2021 โดยเรียกช่องโหว่นี้ว่า “powerdir” ซึ่ง Apple ได้รับทราบและแก้ไขปัญหานี้ในการอัปเดต macOS เวอร์ชัน 11.6 และ 12.1 ที่ถูกปล่อยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

 

ทาง Apple ได้แก้ไข Policy เพื่อให้การเข้าถึงฐานข้อมูล TCC นั้นสามารถทำได้จากแอปพลิเคชันที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึง Disk เต็มรูปแบบ (Full Disk Access) เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้ที่จะดัดแปลงการโจมตีให้แอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์นั้นสามารถใช้งานการตั้งค่า Privacy เพื่อขโมยข้อมูลจากเครื่องได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้บุกรุกสามารถเข้าถึงไมโครโฟนเพื่ออัดเสียงการสนทนา หรือจับภาพหน้าจอของผู้ใช้งานได้

 

“พวกเราค้นพบว่ามันเป็นไปได้ที่จะทำการเปลี่ยน Home Directory ของผู้ใช้งานและทำการฝังฐานข้อมูล TCC ปลอมลงไป ซึ่ง TCC ปลอมที่ว่านั้นเก็บข้อมูลประวัติการยินยอมคำขอต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน” Jonathan Bar Or ทีมนักวิจัยของ Microsoft 365 Defender กล่าว

 

“ถ้าโจมตีที่ระบบที่ยังไม่ถูกแพตช์ ช่องโหว่นี้จะทำให้ผู้บุกรุกสามารถสร้างการโจมตีอื่น ๆ ได้ โดยใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานที่ได้มา”

 

 

หรือกล่าวได้ว่า หากผู้บุกรุกสามารถเข้าถึง Disk ได้อย่างเต็มรูปแบบ และสามารถเข้าถึงฐานข้อมูล TCC ได้ ผู้บุกรุกจะสามารถแก้ไขสิทธิ์และอนุญาตให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำงานด้วยการกำหนดค่าที่ผู้ใช้ไม่ได้ยินยอมได้

 

ช่องโหว่ CVE-2021-30970 ยังเป็นช่องโหว่ที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับการ Bypass TCC ที่ถูกค้นพบหลังจากช่องโหว่ CVE-2020-9934 และ CVE-2020-27937 ซึ่งทั้งสองช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขโดย Apple แล้ว อีกทั้งในเดือนพฤษภาคม 2021 Apple ยังได้แก้ไขช่องโหว่ Zero-day ในส่วนเดียวกัน (CVE-2021-30713) ซึ่งสามารถทำให้ผู้บุกรุกได้รับสิทธิ์การเข้าถึง Disk เต็มรูปแบบ การจับภาพหน้าจอ และสิทธิ์อื่น ๆ ที่ผู้ใช้งานไม่ได้อนุญาต

 

“นี่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ macOS และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ รวมถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ นั้นได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในแต่ละเวอร์ชัน และบริษัทต่าง ๆ อย่าง Apple นักวิจัยด้านความปลอดภัย หรือชุมชนด้านความปลอดภัยใหญ่ ๆ จะต้องทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาและปิดช่องโหว่ก่อนที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านั้น” Jonathan Bar Or ทีมนักวิจัยของ Microsoft 365 Defender กล่าว

 

ที่มา: thehackernews