NVIDIA ออกเเพตซ์เเก้ไขช่องโหว่ระดับ ‘High Severity’ ใน Driver การ์ดจอของ Windows

NVIDIA ได้เปิดตัวเเพตซ์การอัปเดตด้านความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่มีความรุนแรงระดับ ‘High Severity’ ใน Windows GPU Driver ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต, การยกระดับสิทธิ์ของผู้ใช้, การเปิดเผยข้อมูลที่มีความสำคัญและการปฏิเสธการให้บริการ (DoS) โดยช่องโหว่มีรายละเอียดดังนี้

CVE‑2020‑5979 (CVSS: 7.8/10) เป็นช่องโหว่ในคอมโพเนนต์ของ NVIDIA Display Driver ซึ่งช่องโหว่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถทำการยกระดับสิทธิ์ของผู้ใช้wfh
CVE‑2020‑5980 (CVSS: 7.8/10) เป็นช่องโหว่ในองค์ประกอบของไฟล์ DLL ใน NVIDIA Windows GPU Display Driver ซึ่งช่องโหว่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้โค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการ (DoS)
CVE‑2020‑5981 (CVSS: 7.8/10) เป็นช่องโหว่ในใน DirectX 11 ของ NVIDIA Windows GPU Display Drive ซึ่งช่องโหว่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถที่สร้าง shader ขึ้นมาเป็นพิเศษอาจทำให้เกิดการเข้าถึงหน่วยความจำในลักษณะที่ผิดปกติและอาจทำให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการ (DoS)
CVE ‑ 2020‑5982 (CVSS: 4.4/10) เป็นช่องโหว่ใน Kernel Mode ของ NVIDIA Windows GPU Display Driver ซึ่งช่องโหว่จะทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการ (DoS)

ทั้งนี้การจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ได้นั้นผู้โจมตีต้องอยู่ในระบบก่อนหรือต้องเป็น local user ถึงจะสามารถเรียกประโยชน์จากช่องโหว่และทำการโจมตีได้ ผู้ใช้ควรทำการอัปเดตเเพตซ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันผู้ประสงค์ร้ายใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทำการโจมตี

ที่มา : bleepingcomputer

 

Latest Microsoft Update Patches New Windows 0-Day Under Active Attack

 

ไมโครซอฟท์อัปเดตแพตช์ใหม่แก้ช่องโหว่ Zero day ที่กำลังถูกโจมตี

ด้วยแพตช์ล่าสุดมีการอัปเดตในวันที่ 10 ธันวาคม 2019 ไมโครซอฟท์ได้เตือนผู้ใช้หลายพันล้านคนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน Windows ที่ผู้โจมตีใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันกับ Chrome exploit เพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกล

การอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Microsoft ในเดือนธันวาคมนั้นมีการอัปเดตแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 36 ช่องโหว่ มีช่องโหว่ที่มีความรุนแรงมากที่สุดอยู่ 7 ช่องโหว่ มีช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสำคัญอยู่ 27 ช่องโหว่ มีช่องโหว่ที่มีความรุนแรงระดับปานกลางอยู่ 1 ช่องโหว่และมี 1 ช่องโหว่ที่มีความรุนแรงต่ำ

CVE-2019-1458 ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่กำลังถูกโจมตี เป็นช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสำคัญ เป็นช่องโหว่การเพิ่มระดับสิทธิการใช้งาน Win32k ซึ่ง Kaspersky พบว่ากำลังใช้โจมตีในการโจมตีที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation WizardOpium ซึ่งผู้โจมตีใช้ช่องโหว่นี้ร่วมกับการหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก Chrome sandbox เพื่อยึดสิทธิ

แม้ว่า Google จะแก้ไขช่องโหว่ใน Chrome sandbox ที่ถูกใช้ร่วมกับ CVE-2019-1458 แล้ว แต่แฮกเกอร์มุ่งโจมตีเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานเบราว์เซอร์เวอร์ชันที่มีช่องโหว่

ดังที่ The Hacker News รายงานเมื่อเดือนที่แล้ว Operation WizardOpium เกี่ยวข้องกับการโจมตีเว็บข่าวภาษาเกาหลี ที่ถูกบุกรุกแล้ววางโค้ดโจมตีเพื่อทำการแฮกคอมพิวเตอร์ของผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชม โดยโค้ดโจมตีดังกล่าวจะโจมตี Chrome ตามด้วย CVE-2019-1458 ซึ่งโค้ดโจมตีนี้ทำงานบน Windows 7 และแม้แต่ใน Windows 10 บางรุ่น หากโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้โค้ดอันตรายได้ใน kernel mode

ขณะนี้นักวิจัยไม่สามารถระบุว่า Operation WizardOpium คือผู้โจมตีหรือกลุ่มแฮกเกอร์ใด แต่พวกเขาพบความคล้ายคลึงกันบางอย่างคือโค้ดที่ใช้โจมตีคล้ายกับโค้ดของกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ Lazarus

แนะนำผู้ใช้ Windows และผู้ดูแลระบบให้อัปเดตแพตช์ความปลอดภัยล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี โดยสามารถอ่านรายละเอียดช่องโหว่ทั้งหมดที่อัปเดในแพตช์นี้ได้จาก https://msrc-blog.