Marriott ถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 18.4 ล้านปอนด์หลังจากข้อมูลของแขกผู้เข้าพักจำนวน 339 ล้านคนถูกขโมยไปจากเครือโรงแรม

สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร (Information Commissioner Office - ICO) สั่งปรับเครือโรงเเรม Marriott เป็นจำนวนเงิน 18.4 ล้านปอนด์ หลังจากข้อมูลของแขกผู้เข้าพักจำนวน 339 ล้านคนถูกขโมยไปจากเครือโรงแรม

เหตุการณ์การถูกละเมิดข้อมูลนั้นเกิดขึ้นในปี 2014 และส่งผลกระทบต่อเครือรีสอร์ท Starwood ที่ Marriott เข้าซื้อกิจการในปี 2015 ด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นจากผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบของ Starwood และได้ดำเนินการรันมัลแวร์ผ่านเว็บเชลล์รวมถึงเครื่องมือการเข้าถึงจากระยะไกล เพื่อทำการรวบรวม credential ของระบบ จากนั้นผู้โจมตีสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลการจองของแขกรวมถึงชื่อ ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขหนังสือเดินทาง, รายละเอียดการเดินทางและข้อมูล loyalty ของทางโรงแรม ซึ่งการบุกรุกยังคงดำเนินการต่อไปจนถึงปี 2018 โดยที่ทางเครือโรงเเรม Marriott ไม่สามารถตรวจพบและตลอดระยะเวลาสี่ปีข้อมูลของแขกผู้เข้าพักประมาณ 339 ล้านคนถูกขโมยไปจากเครือโรงแรม

หน่วยงาน ICO ได้ทำการสอบสวนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพบว่าเครือโรงเเรม Marriott ได้ทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดการป้องกันข้อมูลและการบังคับใช้กฎระเบียบของ (General Data Protection Regulation - GDPR) ที่ออกในปี 2018 ซึ่งด้วยเหตุนี้ ICO สั่งปรับเครือโรงเเรม Marriott เป็นจำนวนเงิน 99 ล้านปอนด์ แต่ด้วยสถานะการ COVID-19 ซึ่งทำให้เครือโรงเเรม Marriott เกิดสถานะขาดทุนทางด้านการเงิน จึงทำให้เกิดการต่อรองและเจรจาขอลดในส่วนของค่าปรับและเครือโรงเเรม Marriott ได้ถูกเเก้ไขค่าปรับเป็นเงินจำนวน 18.4 ล้านปอนด์

ทั้งนี้เหตุการณ์การบุกรุกเครือข่ายทางเครือโรงเเรม Marriott ได้ทำการปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์พื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่ลูกค้าได้รับแล้ว

ที่มา: zdnet