Permalink LockBit Ransomware อ้างการโจมตีบริษัท Entrust และประกาศเผยแพร่ข้อมูลที่ขโมยมา

กลุ่มแรนซัมแวร์ LockBit อ้างว่าได้ทำการโจมตี Entrust บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยดิจิทัลในเดือนมิถุนายน

ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Entrust ได้แจ้งลูกค้าว่าบริษัทถูกโจมตีทางไซเบอร์ และมีข้อมูลบางส่วนถูกขโมยออกจากระบบภายใน และกำลังดำเนินการตรวจสอบ โดยจะมีการติดต่อลูกค้าหากพบว่ามีข้อมูลที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของการให้บริการ

ถึงแม้ Entrust จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการโจมตี แต่ก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่พบหลักฐานว่าการโจมตีส่งผลกระทบต่อบริการของบริษัท เนื่องจากระบบที่ถูกโจมตี และระบบที่ให้บริการกับลูกค้าอยู่คนละส่วนกัน และยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ โดย Vitali Kremez AdvIntel CEO ระบุว่าผู้โจมตีเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีชื่อเสียง ที่ได้ข้อมูลในการโจมตี Entrust จากการซื้อข้อมูลที่ทำให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายของ Entrust ได้ต่อมาอีกที

LockBit อ้างการโจมตี Entrust

โดยในวันที่ 18 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา นักวิจัยด้านความปลอดภัย Dominic Alvieri ระบุว่า LockBit ได้สร้างหน้าเพจแสดงข้อมูลที่ขโมยออกมาจาก Entrust โดยระบุว่าจะเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยมาทั้งหมดในเย็นวันที่ 19 ส.ค. 2565 เนื่องจาก Entrust ไม่ยอมเจรจา หรือปฏิเสธที่จะตอบรับข้อเสนอในการเรียกค่าไถ่ของ LockBit

LockBit ถือเป็นหนึ่งในแรนซัมแวร์ที่พบมากที่สุดในขณะนี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพึ่งมีการเปิดตัว LockBit 3.0 ซึ่งมาพร้อมกับตัวเข้ารหัสใหม่โดยอิงจากซอร์สโค้ดของ BlackMatter, มีตัวเลือกการชำระเงินใหม่ และช่องทางให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีแจ้งช่องโหว่ของซอฟแวร์ต่างๆเข้าไปเพื่อแลกกับเงินรางวัล

Update: 21 ส.ค. 2565 LockBit เริ่มปล่อยข้อมูลของ Entrust

โดยวันที่ 19 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา LockBit เริ่มทยอยปล่อยข้อมูลของ Entrust ออกมา โดยมีข้อมูลเบื้องต้นเป็นภาพแคปเจอร์หน้าจอของข้อมูลที่อ้างว่าถูกขโมยมา โดย Alvieri นักวิจัยที่ติดตามการเผยแพร่ข้อมูลของ Entrust ระบุว่าข้อมูลอื่นๆประกอบไปด้วยเอกสารทางบัญชี กฏหมาย และการตลาด แต่ที่น่าสนใจคือหลังจาก LockBit เริ่มทยอยปล่อยข้อมูลไปสักพัก เว็ปไซต์ดังกล่าว(บน Tor Network) ก็ออฟไลน์ไป โดย LockBit อ้างว่าพวกเขาถูก DDoS จาก Entrust

ที่มา: bleepingcomputer

Entrust บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยดิจิทัลถูกโจมตีโดย Ransomware

Entrust บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านความมั่นคงปลอดภัยดิจิทัล ยืนยันว่าได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ โดยผู้โจมตีได้เจาะเครือข่าย และขโมยข้อมูลจากระบบภายในออกไป Entrust เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยทางด้าน identity management, บริการเข้ารหัสสำหรับการสื่อสาร, ความปลอดภัยทางด้าน digital payments และ ID issuance solutions การโจมตีครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรต่างๆจำนวนมากที่ใช้งาน Entrust สำหรับการจัดการข้อมูลประจำตัว และการตรวจสอบสิทธิ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามีข้อมูลประเภทใดบ้างที่ถูกขโมยออกไป รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ กรมกิจการทหารผ่านศึก กรมวิชาการเกษตร และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย แฮ็กเกอร์เจาะเครือข่ายของ Entrust ได้ในเดือนมิถุนายน เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน BleepingComputer ได้รับข้อมูลว่า Entrust ถูกโจมตีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน และแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลของบริษัทออกไปด้วยระหว่างการโจมตี อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (21 กรกฎาคม 2565 ) การโจมตีดังกล่าวถึงได้รับการยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง เมื่อนักวิจัยด้านความปลอดภัย Dominic Alvieri ได้ทวีตรูปการแจ้งเตือนถึงการถูกโจมตีที่ส่งไปยังลูกค้าของ Entrust เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมจาก Entrust CEO Todd Wilkinson ข้อความระบุว่า “เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน บริษัทได้พบว่ามีบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงระบบบางระบบของเราที่ใช้สำหรับการดำเนินงานภายใน เราพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้มาโดยตลอด”
“ปัจจุบันบริษัทกำลังทำการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง มีเอกสารบางอย่างถูกนำออกไปจากระบบของเรา บริษัทจะติดต่อกับลูกค้าโดยตรงหากมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และบริการที่ให้กับองค์กรของลูกค้า"
Entrust ให้ข้อมูลกับ BleepingComputer ว่าพวกเขากำลังทำงานร่วมกับ บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อตรวจสอบการโจมตี
"แม้ว่าการสืบสวนจะยังคงดำเนินอยู่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่ามีปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ และการรักษาความปลอดภัยของเรา ผลิตภัณฑ์ และบริการเหล่านี้จะทำงานอยู่แยกจากระบบภายในของบริษัท ซึ่งยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ” Entrust ให้ข้อมูลกับ BleepingComputer

กลุ่ม Ransomware
แม้ว่าประกาศ และคำกล่าวของ Entrust กับ BleepingComputer ไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว แต่ BleepingComputer คาดว่ากลุ่มผู้โจมตีน่าจะเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่รู้จักกันดี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

ที่มา : bleepingcomputer