Critical Vulnerabilities Allow Takeover of D-Link Routers

พบช่องโหว่ร้ายแรงสามารถเข้าควบคุมเราเตอร์ D-Link ได้

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Silesian ในประเทศโปแลนด์ได้พบช่องโหว่หลายรายการซึ่งส่งผลกระทบกับเราเตอร์ D-Link หลายรุ่นประกอบด้วย DWR-116, DWR-111, DIR-140L, DIR-640L, DWR-512, DWR-712, DWR-912 และ DWR-921 โดยช่องโหว่ร้ายแรงสามารถทำให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เลยทีเดียว

หนึ่งในช่องโหว่เป็น Directory Traversal (CVE-2018-10822) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้ามาอ่านไฟล์ผ่าน HTTP Request ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ช่องโหว่เคยถูกรายงานมาแล้ว (CVE-2017-6190) แต่ทางผู้ผลิตล้มเหลวในการแก้ไขช่องโหว่ที่เกิดขึ้นบนผลิตภัณฑ์ของตนเองหลายรุ่น นอกจากนี้ยังมี

CVE-2018-10824 เป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงไฟล์เก็บรหัสผ่านของ Admin ที่พบว่าไม่มีการเข้ารหัสด้วย โดยนักวิจัยไม่ได้เผยที่ตั้งไฟล์เพราะเกรงว่าจะเป็นการชี้ช่องทาง
CVE-2018-10823 เป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการรันคำสั่งและสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากทำการ authenticate สำเร็จแล้ว

แม้ว่าทางบริษัทผู้ผลิตจะได้รับการแจ้งเตือนช่องโหว่ต่างๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและให้สัญญาว่าจะออกแพตช์สำหรับเราเตอร์รุ่น DWR-116 และ DWR-111 พร้อมแจ้งเตือนสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เก่าจนไม่ได้รับการรองรับแล้ว แต่จนบัดนี้ทาง D-Link ก็ยังไม่มีแพตช์ใดๆ ออกมาจนทำให้นักวิจัยตัดสินใจเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ สำหรับผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบควรไปตั้งค่าปิดการเข้าถึงเราเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต

เช่นเดียวกับการค้นพบช่องโหว่ใน Linksys E-Series เร้าเตอร์ โดยนักวิจัยจาก Cisco Talos เป็นข้อผิดพลาดใน Injection Command ของระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงเครื่องและติดตั้งมัลแวร์ได้ ซึ่งข้อแตกต่างจากช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ D-Link คือสามารถโจมตีสำเร็จได้เมื่อทำการ authenticate แล้วเท่านั้น และได้มีการออกแพทช์เรียบร้อยแล้ว

ที่มา:securityweek