ZombieBoy cryptomining malware exploits CVEs to evade detection Edit Comment Assign More Canceled Publishing Export

ผู้เชี่ยวชาญด้าน security นามว่า เจมส์ ควินน์ ได้พบกับ Cryptominers สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า ZombieBoy ซึ่งอาจมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน

ความสามารถของ ZombieBoy นั้นถือว่าหลากหลายมาก เช่น สามารถใช้เครื่องมือ Gh0st RAT เข้าจัดการไฟล์ dll(dynamic link library), ใช้งาน WinEggDrop ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่ได้รับผลกระทบจากระยะไกลได้ และที่สำคัญคือสามารถลบเลี่ยงระบบ security ซึ่งรวมถึงช่องโหว่ RDP(Remote Desktop Protocol) รหัส CVE-2017-9073 และ Server Message Block Protocol) รหัส CVE-2017-0143 และ CVE-2017-0146 นอกจากการนี้ยังมีการใช้ DoublePulsar และ EternalBlue เพื่อสร้าง Backdoors สำหรับการติด Malware อื่นๆ ซึ่งสร้างความยากลำบากในการแก้ไขอย่างมาก

อีกหนึ่งความลำบากของการตรวจสอบ ZombieBoy คือไม่สามารถทำให้ ZombieBoy ทำงานบน VMs(virtual machines)ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำวิศวกรรมย้อนกลับ Malware ตัวนี้ได้

ที่มา:hackread

ช่องโหว่ ETERNALSYNERGY ถูกพัฒนาต่อเพื่อโจมตีเป้าหมายที่เป็น Windows รุ่นใหม่

นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากไทยคุณวรวิทย์ วังวรัญญู ได้ทำการพัฒนาเครื่องมือสำหรับโจมตีช่องโหว่ (exploit) ใหม่โดยมีต้นแบบจากเครื่องมือ ETERNALSYNERGY ที่ถูกเผยแพร่โดยกลุ่ม The Shadow Brokers โดยการพัฒนาเครื่องมือสำหรับโจมตีช่องโหว่ใหม่นี้ทำให้ความสามารถของ TERNALSYNERGY ได้ใช้ประโยชน์จาก ETERNALSYNERGY ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังเวอร์ชันใหม่ๆของระบบปฏิบัติการ Windows ได้ เช่น Windows 10
ETERNALSYNERGY เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับโจมตีของ NSA ที่เปิดเผยโดยกลุ่มการแฮ็กเกอร์ Shadow Brokers ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Microsoft เครื่องมือ ETERNALSYNERGY สามารถทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเครื่อง Windows โดยผ่านทางช่องโหว่จากโปรโตคอล SMB version 1 ช่องโหว่นี้ถูกกำหนดเป็น CVE-2017-0143

การโจมตีนี้ทำงานได้กับ Windows 8 ตามที่ Microsoft กล่าว ซึ่งเทคนิคที่ใช้ ETERNALSYNERGY แบบเดิมไม่ได้ผลกับบนแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เนื่องจากมีการปรับปรุงความปลอดภัยของเคอร์เนลหลายจุด ปัจจุบันผู้บุกรุกสามารถใช้ประโยชน์จากทั้ง ETERNALSYNERGY และ ETERNALROMANCE เพื่อกำหนดเป้าหมายได้เกือบทุกเวอร์ชั่นของ Windows ตั้งแต่ XP ไปจนถึง Windows Server 2016 ยกเว้นเพียง Windows 10 นั่นคือประมาณ 75% ของพีซีทุกเครื่องที่ใช้ Windows ทั้งหมดที่มีในปัจจุบัน

ที่มา : bleepingcomputer