ข้อมูลหน่วยงานของรัฐ Colorado รั่วไหล หลัง IBM ถูกโจมตีจากช่องโหว่ MOVEit

Health Care Policy & Financing (HCPF) เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดการโครงการ Health First Colorado (Medicaid) และ Child Health Plan Plus รวมทั้งให้การสนับสนุนครอบครัวที่มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และผู้ทุพพลภาพ ออกมาประกาศเตือนเรื่องข้อมูลของผู้ใช้งานกว่า 4 ล้านรายรั่วไหลออกสู่สาธารณะ ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลสุขภาพ

HCPF รายงานว่าระบบของพวกเขาไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรง แต่ข้อมูลที่รั่วไหลเกิดขึ้นผ่าน IBM ซึ่งใช้ซอฟต์แวร์ MOVEit

โดยกลุ่มแรนซัมแวร์ Clop ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของ MOVEit Transfer Zero Day (CVE-2023-34362) เพื่อขโมยข้อมูลจากองค์กรหลายร้อยแห่งทั่วโลก โดย IBM ได้แจ้งให้ HCPF ทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และดำเนินการตรวจสอบอย่างทันทีว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อระบบของตนหรือไม่ และข้อมูลด้านสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครองของสมาชิก Health First Colorado และ CHP+ นั้นถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง IBM ถูกเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบ HCPF พบว่ามีไฟล์ HCPF บางไฟล์บนแอปพลิเคชัน MOVEit ในวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2566 ส่งผลให้ข้อมูลสมาชิก Health First Colorado และ CHP+ จำนวนทั้งหมด 4,091,794 รายถูกขโมยออกไป ประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

ชื่อเต็ม
หมายเลขประกันสังคม
หมายเลขประจำตัว Medicaid
หมายเลขบัตรประกันสุขภาพ
วันเดือนปีเกิด
ที่อยู่
รายละเอียดการติดต่อ
ข้อมูลรายได้
ข้อมูลประชากร
ข้อมูลทางคลินิก (การวินิจฉัย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษา การให้ยา)
ข้อมูลประกันสุขภาพ

สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐขนาดใหญ่อีกแห่งในโคโลราโด Department of Higher Education (CDHE) เปิดเผยว่าพบข้อมูลรั่วไหลจากการถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ส่งผลกระทบต่อนักเรียน และครูจำนวนมาก โดยผู้โจมตีได้ขู่จะเผยแพร่ข้อมูล และเข้ารหัสเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์เข้าไปในเครือข่ายได้อย่างไร และในเดือนกรกฎาคม 2566 มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโคโลราโด ก็ได้เผยว่าข้อมูลรั่วไหลที่เกิดจากการใช้ช่องโหว่ของ MOVEit Transfer ส่งผลกระทบต่อนักศึกษา และคณาจารย์หลายหมื่นคนเช่นกัน

นอกจากนี้ HPCF ได้แจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และยังได้ให้บริการตรวจสอบการใช้งานบัตรเครดิตผ่าน Experian เป็นเวลาสองปี อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกขโมยไปเพียงพอสำหรับการนำมาใช้โจมตีแบบฟิชชิ่ง และสามารถระบุตัวตน รวมถึงการทำธุรกรรมกับธนาคาร ดังนั้นผู้ใช้งานจึงควรระมัดระวังความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น

ที่มา : bleepingcomputer