NETGEAR FIXES 50 VULNERABILITIES IN ROUTERS, SWITCHES, NAS DEVICES

Netgear ออก Patch 50 รายการสำหรับ Routers, Switches, NAS, และ Wireless Access Points แก้ไขช่องโหว่ Remote Code Execution ไปจนถึง Authentication Bypass โดย 20 รายการแก้ไขช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงระดับ High และอีก 30 รายการแก้ไขช่องโหว่ที่ความเสี่ยงอยู่ระดับ Medium

ช่องโหว่ส่วนมากถูกค้นพบโดย Netgear เอง และทาง Netgear ยังได้ให้เครดิตกับผู้ค้นพบช่องโหว่อื่น ๆ อย่าง Network security ของ Beyond Security สำหรับช่องโหว่ command injection ใน ReadyNAS Surveillance Application ที่รันในเวอร์ชั่นก่อน 1.4.3-17 (x86) และ 1.1.4-7 (ARM). สามารถ Execute arbitrary commands บนระบบปฏิบัติการผ่านช่องโหว่ของแอพพลิเคชั่น ซึ่งส่วนมากช่องโหว่ที่พบเกิดจากไม่มีการตรวจสอบ input user และการรับรองสิทธิ์ในการเข้าถึง web interface และคาดว่า Products Netgear ใช้ Codebase และ โครงสร้าง Code เดียวกัน ส่งผลให้หลายๆ Product มีช่องโหว่, Martin Rakhmanov จาก Trustwave สำหรับช่องโหว่ที่มีความรุนแรงระดับสูง PSV-2017-1209 เป็นช่องโหว่ที่ทำให้สามารถควบคุม router ได้อย่างสมบูรณ์, Maxime Peterlin ของ ON-X Security สำหรับช่องโหว่ Remote Code Execution ใน WNR2000v5 routers,

สำหรับผู้ใช้Netgear สามารถตรวจสอบช่องโหว่ของผลิตภัณฑ์ และ Patch ได้ที่ http://www.

RCE Vulnerability Affecting Older Versions of Chrome Will Remain Unpatched

ช่องโหว่ remote code execution กระทบกับ Google Chrome browser เวอร์ชั่นเก่า ยกเว้นเวอร์ชั่นล่าสุด(Chrome 60)
ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว ซึ่งอยู่ใน SecuriTeam ของ Beyond Security และได้ทำการแจ้งให้ Google ทราบแล้ว ด้าน Google เองได้แจ้งว่าช่องโหว่นี้มีผลเฉพาะกับ Chrome ที่เป็นเวอร์ชั่นเก่าเท่านั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการปิดช่องโหว่ดังกล่าว
การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ ผู้โจมตีจะทำการหลอกให้ผู้ใช้เข้าไปยังเว็บไซต์ของตนเอง จากนั้นจึงทำการรัน JavaScript ผู้โจมตีสามารถสั่งให้โค้ดทำงานผ่านเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ เพื่อขโมยข้อมูลที่เข้าถึงได้จากเบราว์เซอร์ เช่น รหัสผ่าน และ Cookies บนเครื่อง จึงแนะนำให้ทำการอัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุด Chrome 60 จะช่วยให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น

ที่มา : bleepingcomputer