Windows XP Still Runs On 95% Of ATM Machines

จากเดิมที่ Microsoft ประกาศหยุดการสนับสนุน Windows XP ภายในวันที่ 8 เมษายนที่จะถึงนี้ สิ่งที่น่าวิตกอย่างยิ่งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวอยู่ คือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงที่อาจจะโดนผู้ไม่หวังดีเจาะระบบมาขโมยเอาไปได้ และ 95% ของตู้ ATM ทั่วโลก ล้วนอยู่ในข่ายดังกล่าว
BusinessWeek อ้างว่าตู้ ATM กว่า 95% ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ในขณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่ากำลังตกอยู่ภายใต้อภิมวลมหาความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการเพื่อดึงเอาข้อมูลสำคัญไปจากตู้ ATM
แม้ภายหลัง Microsoft จะชี้แจงเพิ่มเติมว่าจะยังคงสนับสนุนการอัพเดตระบบความปลอดภัยให้แก่ Windows XP ต่อไปอีกถึงกลางปีหน้า แต่นั่นก็ไม่ใช่เวลาที่มากนักสำหรับบรรดาธนาคารทั้งหลายที่จะปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้แก่ ATM ทั้งหมด ซึ่งดูจะเป็นเรื่องยากหนักหนาไม่น้อยไปกว่าการแก้ปัญหา Y2K เมื่อ 14 ปีก่อน
เราควรตื่นตัวและช่วยกันกระจายข้อมูลเรื่องความเสี่ยงนี้เพื่อเร่งให้องค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้วางแผนและดำเนินการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีนี้อย่างทันท่วงที ลองคิดถึงตู้ ATM ที่คุณกดเงินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันโดนเจาะระบบแล้วทำให้ข้อมูลการเงินทุกสิ่งทุกอย่างของเราถูกขโมยไปหมดก็คงเข้าใจได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวใครเลย

ที่มา : ubergizmo

เบื้องหลังการแฮกตู้ ATM: เจาะรู-เสียบแฟลชไดรฟ์แพร่มัลแวร์-ปิดรู-กดเงิน

ที่งานสัมมนาด้านความปลอดภัย Chaos Computing Congress ในเยอรมนี มีนักวิจัย 2 รายเปิดเผยวิธีการแฮกตู้ ATM ของขบวนการอาชญากรรม ซึ่งถูกค้นพบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 เป็นต้นมา (ไม่ระบุประเทศแต่บอกว่าอยู่ในยุโรป)

เรื่องเริ่มต้นจากธนาคารพบว่าตู้ ATM บางแห่งเงินหายไปทั้งหมดแม้ว่าจะเก็บรักษาเงินไว้ในตู้เซฟของ ATM แล้วก็ตาม หลังการสอบสวนพบว่าขบวนการอาชญากรรมใช้วิธีเจาะรูตู้ ATM เพื่อเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ติดตั้งมัลแวร์สำหรับเจาะระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ในตู้โดยเฉพาะ จากนั้นก็ปิดรูเพื่อไม่ให้ถูกพบเห็นได้ง่ายว่า ATM เครื่องนี้โดนแฮกแล้ว

เมื่อเจาะระบบความปลอดภัยของตู้ได้แล้ว แฮกเกอร์จะมากดเงินตามปกติโดยป้อนรหัส 12 หลักเข้าโหมดพิเศษที่บอกว่ามีธนบัตรประเภทใดเหลือบ้าง แล้วกดเงินออกมาแบบสบายๆ

นักวิจัยพบว่าการเจาะระบบลักษณะนี้ทำเป็นขบวนการ และหัวหน้าขบวนการก็ซ้อนระบบความปลอดภัยไว้อีกชั้นเพื่อกันคนในทีมกดเงินแล้วหนีไป โดยซอฟต์แวร์พิเศษที่ถูกติดตั้งในเครื่องผ่านมัลแวร์จะบังคับให้ใส่รหัสผ่านอีกชั้น ซึ่งคนที่กดเงินหน้าตู้จะต้องดูโค้ดบนจอภาพแล้วโทรศัพท์ไปขอรหัสจากคนในขบวนการอีกทีหนึ่ง

ตู้ ATM ที่พบว่าโดนเจาะด้วยวิธีนี้มีอย่างน้อย 4 ตู้ ซึ่งนักวิจัยก็ให้ความเห็นว่าขบวนการนี้มีความรู้ความเข้าใจต่อกระบวนการทำงานของ ATM เป็นอย่างดี

ที่มา : blognone

ธ.กสิกรไทย เผยมีธุรกรรมผิดปกติ 117 ราย จากแฮกเกอร์ดูดเงินตู้เอทีเอ็ม

ธนาคารกสิกรฯ เผยมีธุรกรรมผิดปกติ 117 ราย จากการถูกแฮกเกอร์ขโมยเงินด้วยการใช้เครื่องสกิมเมอร์ โดยทำการอายัดบัตรไว้ได้ 70 ราย แต่อีกกว่า 40 ราย ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ทำให้สูญเงินรวม 2.8 แสนบาท พร้อมยินดีชดใช้ทั้งหมด และเร่งหาแนวทางป้องกันต่อไป

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายที่โจรกรรมบัตรกดเงินจากเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของผู้เสียหาย พร้อมกับกล่าวว่า ในส่วนของธนาคารกสิกร ตรวจพบว่ามีการทำธุกรรมที่ผิดปกติ จำนวน 117 ราย จึงทำการอายัดบัตรไว้ได้ประมาณ 70 ราย แต่อีกกว่า 40 ราย ไม่สามารถที่จะทำการอายัดได้ทัน ทำให้สูญเงินรวม 2.8 แสนบาท ซึ่งทางธนาคารได้ชดใช้เงินคืนให้แก่ผู้เสียหายไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในส่วนของทางธนาคารกสิกรไทย มีระบบปิดกั้นการติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ แต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คนร้ายจะปรับใช้วิธีการใหม่ในการแอบติดตั้งเครื่องดังกล่าว ทำให้ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ทำการเติมเงินในตู้ ATM ก็จะต้องตรวจสอบว่า แต่ละตู้นั้นมีการติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไป ธนาคารกสิกรไทย ได้เตรียมพูดคุยกับผู้ผลิตตู้ ATM เพื่อดูว่าจะสามารถผลิตเครื่องรุ่นใหม่ที่สามารถป้องกันการแอบติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์จากคนร้ายได้หรือไม่

ที่มา : manager

New Malware Found Infecting ATMs in Mexico

นักวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลายบริษัทได้ระบุว่า พบการแฮกตู้ ATM ในประเทศเม็กซิโก โดยการแฮกเริ่มโดยการใช้ picked lock และจบด้วยการที่ตู้ ATM แจกจ่ายเงินออกมา โดยวิธีการทำเริ่มต้นที่

หลังจากที่แฮกเกอร์ได้ทำการปลดหน้ากากตู้ ATM และสามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำตู้ ATM ได้, แฮกเกอร์จะใส่ แผ่นบูทซีดีรอมเพื่อติดตั้งมัลแวร์ Ploutus
หลังจากติดตั้งเสร็จ แฮกเกอร์จะสร้างอินเตอเฟซที่เชื่อมต่อกับโปรแกรม ATM เพื่อเอาเงินออกจากตู้ ATM ทั้งหมด

ทีม Symantec's Security Response ได้ระบุว่ามีสิ่งที่น่าสนใจ คือ แฮกเกอร์สามารถอ่านข้อมูลทุกอย่างของผู้ถือบัตร ATM ได้ผ่านทาง แป้นพิมพ์ของตู้ ATM ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญของผู้ถือบัตรได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆภายนอก
มัลแวร์ตัวนี้ถูกพัฒนาโดยใช้ภาษา .NET ,ใช้โปรแกรม Confuser 1.9 ในการปกปิดซอร์สโค้ด และไบนารี คือ PloutusService.