ConnectWise ออกแพตซ์อัปเดตความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์ Automate ซึ่งหนึ่งในนั้นมีความรุนแรงระดับ Critical โดยช่องโหว่นี้อาจทำให้การเชื่อมต่อที่สำคัญถูก intercept และแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ (more…)
ConnectWise แก้ไข bug ใน Automate ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ AiTM update attacks
Opera Browser แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ ที่อาจทำให้ข้อมูลของผู้ใช้รั่วไหลได้
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในเว็บเบราว์เซอร์ Opera ที่ได้รับการแก้ไขแล้ว อาจทำให้ extension ที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึง API ส่วนตัวได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
Guardio Labs ระบุว่า การโจมตีนี้มีชื่อรหัสว่า CrossBarking โดยการโจมตีดังกล่าวจะทำให้สามารถดำเนินการต่าง ๆ อย่างเช่น การจับภาพหน้าจอ, การแก้ไขการตั้งค่าเบราว์เซอร์ และการขโมยบัญชีผู้ใช้ได้
เพื่อแสดงให้เห็นถึงช่องโหว่นี้ บริษัทระบุว่าได้ทำการทดลองเผยแพร่ extension ของเว็บเบราว์เซอร์ที่ดูเหมือนไม่มีอันตรายไปยัง Chrome Web Store ซึ่งเมื่อถูกติดตั้งใน Opera แล้วก็จะสามารถใช้ช่องโหว่ดังกล่าวได้ ทำให้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการโจมตีแบบ cross-browser-store
Nati Tal หัวหน้า Guardio Labs ได้แชร์รายงานนี้ให้กับ The Hacker News ว่า “กรณีศึกษานี้ไม่เพียงแต่เน้นย้ำให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างประสิทธิภาพการทำงานกับความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ผู้โจมตียุคใหม่ใช้ ซึ่งมักแฝงตัวอยู่ใต้เรดาร์การตรวจจับ”
ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขโดย Opera ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2024 หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูล อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในเว็บเบราว์เซอร์นี้
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายละเอียดของช่องโหว่ที่มีชื่อว่า MyFlaw ซึ่งใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า My Flow เพื่อเรียกใช้ไฟล์ใด ๆ ก็ได้ บนระบบปฏิบัติการที่ใช้งานอยู่
เทคนิคการโจมตีล่าสุดนี้อาศัยข้อเท็จจริงที่ว่าโดเมนย่อยหลายแห่งที่เป็นของ Opera สามารถถูกเข้าถึงได้จากภายนอก ซึ่งจะมีสิทธิ์ในการเข้าถึง API ส่วนตัวที่ฝังอยู่ในเบราว์เซอร์ โดเมนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อรองรับฟีเจอร์เฉพาะของ Opera เช่น Opera Wallet, Pinboard และอื่นๆ รวมถึงโดเมนที่ใช้ในการพัฒนาภายในด้วย
รายชื่อของบางโดเมน ซึ่งรวมถึงโดเมนของ third-party บางส่วน มีดังต่อไปนี้
crypto-corner.
ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบใหม่สามารถ Bypass MFA ได้ กำลังมุ่งเป้าไปที่บัญชี Microsoft 365 และ Gmail
เหล่าอาชญากรไซเบอร์หันมาใช้แพลตฟอร์มฟิชชิ่งรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า "Tycoon 2FA" ซึ่งเป็นบริการฟิชชิ่งสำเร็จรูป (PhaaS) มากขึ้น เพื่อมุ่งเป้าโจมตีบัญชี Microsoft 365 และ Gmail โดยชุดเครื่องมือนี้สามารถ bypass การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA) ได้อีกด้วย
Tycoon 2FA ถูกพบโดยนักวิเคราะห์จาก Sekoia ในเดือนตุลาคม 2023 ระหว่างการตรวจสอบภัยคุกคามตามปกติ แต่ชุดเครื่องมือนี้มีการใช้งานมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 เป็นอย่างน้อยโดยกลุ่ม Saad Tycoon ซึ่งให้บริการผ่านช่องทาง Telegram ส่วนตัว
ชุดเครื่องมือ PhaaS นี้ มีความคล้ายคลึงกับแพลตฟอร์ม AitM (Adversary-in-the-Middle) อื่น ๆ เช่น Dadsec OTT ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาจมีการนำโค้ดมาใช้ซ้ำ หรือเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนา
ในปี 2024 Tycoon 2FA ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่แอบแฝงได้แนบเนียนยิ่งขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาชุดเครื่องมือฟิชชิ่งนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันบริการนี้มีโดเมนที่ใช้งานมากกว่า 1,100 โดเมน และถูกนำไปใช้ในการโจมตีฟิชชิ่งหลายพันครั้ง
การโจมตี Tycoon 2FA
การโจมตีด้วย Tycoon 2FA เป็นกระบวนการหลายขั้นตอนที่ผู้โจมตีทำการขโมยคุกกี้เซสชันโดยใช้เซิร์ฟเวอร์ reverse proxy ซึ่งทำหน้าที่เป็นโฮสต์เว็บฟิชชิ่ง เว็บฟิชชิ่งเหล่านี้จะดักจับข้อมูลที่ผู้เสียหายกรอกเข้าไป และส่งต่อข้อมูลนั้นไปยังบริการที่ถูกต้อง
บริษัท Sekoia อธิบายว่า "เมื่อผู้ใช้ผ่านการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) สำเร็จ เซิร์ฟเวอร์ reverse proxy จะทำการขโมยคุกกี้เซสชันของผู้ใช้งานไป" ด้วยวิธีนี้ผู้โจมตีสามารถนำเซสชันของผู้ใช้ไปใช้ต่อได้อีกครั้ง ส่งผลให้สามารถ bypass การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) ได้
รายงานของ Sekoia แบ่งการโจมตีด้วย Tycoon 2FA ออกเป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้:
Stage 0 : ผู้โจมตีจะกระจายลิงก์เว็บฟิชชิ่งไปยังเหยื่อผ่านทางอีเมลที่ฝัง URL หรือรหัส QR โดยปลอมแปลงเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ
Stage 1 : ผู้โจมตีใช้ระบบกรองความเป็นมนุษย์ (CAPTCHA) แบบพิเศษอย่าง Cloudflare Turnstile เพื่อกรองโปรแกรม Bot ออก ให้เหลือเฉพาะผู้ใช้งานจริงเท่านั้นที่จะเข้าถึงเว็บฟิชชิ่งได้
Stage 2 : สคริปต์เบื้องหลังของเว็บฟิชชิ่ง จะทำการดึงข้อมูลอีเมลของเหยื่อจาก URL เพื่อปรับแต่งสำหรับการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
Stage 3 : เหยื่อจะถูกนำไปยังอีกส่วนหนึ่งของเว็บฟิชชิ่งโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งการกระทำนี้จะพาเหยื่อเข้าใกล้หน้าเข้าสู่ระบบปลอมมากขึ้น
Stage 4 : ในขั้นตอนนี้จะแสดงหน้าเข้าสู่ระบบปลอมของ Microsoft เพื่อขโมยข้อมูลรับรอง (credentials) โดยใช้ WebSockets ในการแอบส่งข้อมูลออกไป
Stage 5 : ชุดเครื่องมือนี้จะเลียนแบบการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (2FA) โดยดักจับรหัสโทเค็น หรือการตอบสนองของ 2FA เพื่อ bypass การรักษาความปลอดภัย
Stage 6 : ในที่สุด เหยื่อจะถูกนำทางไปยังหน้าเว็บที่ดูเหมือนเป็นหน้าเว็บที่ถูกต้อง เพื่อซ่อนความสำเร็จของการโจมตีฟิชชิ่ง
ภาพรวมของการโจมตีอธิบายไว้ด้วยแผนภาพด้านล่างนี้ซึ่งรวมถึงขั้นตอนทั้งหมดของกระบวนการ
พัฒนาการ และขอบเขตของเว็บฟิชชิ่ง
บริษัท Sekoia รายงานว่า Tycoon 2FA ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือฟิชชิ่งเวอร์ชันล่าสุดที่เปิดตัวในปีนี้ มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการฟิชชิ่ง และหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
การเปลี่ยนแปลงสำคัญประกอบด้วย การปรับปรุงโค้ด JavaScript และ HTML, การเปลี่ยนลำดับการดึงข้อมูล และการกรองข้อมูลที่เข้มงวดขึ้นเพื่อบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์จากบอท และเครื่องมือวิเคราะห์
ตัวชุดเครื่องมือตอนนี้เลื่อนการโหลดการเข้าถึงหน้าฟิชชิ่งไปจนกระทั่งหลังจากที่ผ่านการตรวจสอบจาก Cloudflare Turnstile โดยใช้ชื่อ URL ที่เป็นเลขสุ่มเพื่อปิดการทำงาน
นอกจากนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยยังสามารถระบุ traffic จาก Tor network ที่เชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีการบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์จากโปรแกรมโดยอิงตาม user-agent strings ที่เฉพาะเจาะจง
เกี่ยวกับขอบเขตของการดำเนินการ Sekoia รายงานว่ามีขนาดใหญ่อย่างมากเนื่องจากมีหลักฐานแสดงถึงผู้ใช้งานหลากหลายที่มีพฤติกรรมในลักษณะที่กำลังใช้ Tycoon 2FA สำหรับการดำเนินการฟิชชิ่ง
กระเป๋า Bitcoin ที่เชื่อมโยงกับผู้ดำเนินการ มีธุรกรรมมากกว่า 1,800 รายการตั้งแต่ตุลาคม 2019 โดยมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เครื่องมือนี้เปิดตัว
มีธุรกรรมมากกว่า 530 รายการที่มีมูลค่าเกิน 120 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้นสำหรับลิงก์การโจมตีฟิชชิ่งในระยะเวลา 10 วัน โดยถึงกลางเดือนมีนาคม 2024 กระเป๋าเงินของผู้โจมตีได้รับเงินสดรวมมูลค่า 394,015 ดอลลาร์
Tycoon 2FA เป็นเพียงการพัฒนาล่าสุดใน PhaaS ที่มีตัวเลือกมากมายสำหรับอาชญากรไซเบอร์ แพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงอื่นที่สามารถหลบหลีกการป้องกัน 2FA ได้ เช่น LabHost, Greatness, และ Robin Banks
Sekoia ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ indicators of compromise (IoCs) ที่เชื่อมโยงกับการทำงานของ Tycoon 2FA ที่มีรายการมากกว่า 50 รายการ
https://github.
พบกลุ่ม Hacker Blackwood ควบคุม WPS Office ที่ทำการอัปเดตเพื่อติดตั้งมัลแวร์
พบกลุ่ม Hacker Blackwood ควบคุม WPS Office ที่ทำการอัปเดตเพื่อติดตั้งมัลแวร์
พบกลุ่ม Hacker ในชื่อ Blackwood กำลังใช้มัลแวร์ที่มีความสามารถสูงในชื่อ “NSPX30” เพื่อทำการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัท และบุคคล
(more…)
Microsoft แจ้งเตือนการใช้ Phishing Kits จำนวนมากเพื่อส่งอีเมลหลายล้านฉบับต่อวัน [EndUser]
เครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับการโจมตีแบบ adversary-in-the-middle (AiTM) ถูกพบกำลังถูกนำมาใช้โดยผู้โจมตี
Microsoft Threat Intelligence กำลังติดตามกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาชุดเครื่องมือดังกล่าวภายใต้ชื่อ DEV -1101
การโจมตี AiTM phishing คือความพยายามในการขโมย และดักจับข้อมูลรหัสผ่าน และคุกกี้เซสชั่นของเป้าหมายโดยการติดตั้ง proxy เซิร์ฟเวอร์ระหว่างผู้ใช้กับเว็บไซต์ การโจมตีดังกล่าวมีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากมีความสามารถในการหลีกเลี่ยงการป้องกันจาก multi-factor authentication (MFA)
DEV-1101 อยู่เบื้องหลัง Phishing Kits ที่กลุ่มผู้โจมตีรายอื่นสามารถซื้อ หรือเช่าไปใช้ได้ ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการเริ่มการโจมตีด้วย Phishing ได้
เครื่องมือโอเพ่นซอร์สจาก DEV-1101 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ทำให้สามารถตั้งค่าหน้า Landing Page ฟิชชิ่งที่เลียนแบบ Microsoft Office และ Outlook รวมถึงการจัดการการโจมตีได้จากอุปกรณ์พกพา และแม้แต่ใช้การตรวจสอบจาก CAPTCHA เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
นับตั้งแต่เปิดตัวบริการดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม 2565 เครื่องมือมีการปรับปรุงหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ผ่าน Telegram bot ซึ่งปัจจุบันมีราคา 300 ดอลลาร์สำหรับรายเดือนปกติ และ 1,000 ดอลลาร์สำหรับระดับ VIP
Microsoft ระบุว่าได้ตรวจพบแคมเปญฟิชชิ่งจํานวนมาก ซึ่งครอบคลุมอีเมลฟิชชิ่งนับล้านฉบับต่อวันจากหลากหลายกลุ่มที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดังกล่าว
ซึ่งรวมถึงกลุ่ม DEV-0928 ที่ Microsoft ระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่สำคัญของ DEV-1101 และเชื่อมโยงกับแคมเปญ Phishing ซึ่งประกอบด้วยอีเมลมากกว่าหนึ่งล้านฉบับตั้งแต่เดือนกันยายน 2565
ลำดับการโจมตีเริ่มต้นด้วยข้อความอีเมลในธีมเอกสารที่มีลิงก์ไปยังเอกสาร PDF ซึ่งเมื่อคลิกแล้ว จะนำผู้รับไปยังหน้าเข้าสู่ระบบที่ปลอมเป็น portal ลงชื่อเข้าใช้ของ Microsoft แต่ก่อนหน้านั้นจะมีการให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูล Captcha ก่อน การใส่หน้า CAPTCHA ลงไปทำให้สามารถป้องกันการถูกตรวจสอบจากระบบอัตโนมัติ แต่ทำให้มั่นใจได้ว่าเหยื่อเป็นผู้เข้าใช้งานเอง
ที่มา : thehackernews
