T-Mobile แจ้งถูกโจมตีขโมยข้อมูล คาดส่งผลต่อผู้ใช้งานถึง 54 ล้านคน

เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลของ T-Mobile เริ่มมีข้อมูลของผลกระทบออกมาเรื่อยๆ หลังจากผลการตรวจสอบล่าสุดพบว่าในขณะนี้มีการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าที่ใช้บริการ T-Mobile มากกว่า 54 ล้านคน

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้โจมตีเริ่มขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า T-Mobile 100 ล้านคนบนฟอรัมใต้ดินด้วยราคา 6 bitcoin หรือประมาณ 9 ล้าน 3 แสนบาท

ผู้โจมตีกล่าวว่าฐานข้อมูลที่ถูกขโมยมีข้อมูลลูกค้า T-Mobile ประมาณ 100 ล้านคน ข้อมูลที่เปิดเผยอาจรวมถึง IMSI, IMEI ของลูกค้า, หมายเลขโทรศัพท์, ชื่อลูกค้า, PIN ความปลอดภัย, หมายเลขประกันสังคม, หมายเลขใบขับขี่ และวันเกิด

ผู้โจมตีกล่าวว่าฐานข้อมูลที่ขโมยมาเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน มีข้อมูลลูกค้าย้อนหลังไปถึงปี 2547 โดยทาง T-Mobile ก็มีการยืนยันในภายหลังว่าเซิร์ฟเวอร์บางส่วนถูกแฮ็กจริง และเริ่มตรวจสอบข้อมูลลูกค้าที่ถูกเปิดเผยออกมา

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม T-Mobile ได้เปิดเผยการตรวจสอบ เกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกแฮ็กเป็นครั้งแรก และกล่าวว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน 48.6 ล้านคนถูกขโมยออกไประหว่างการโจมตี

โดยวันนี้ (21 สิงหาคม) T-Mobile ได้อัปเดตจำนวนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพิ่มเติม 6 ล้านคนที่คาดว่าที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี
ในครั้งนี้ ซึ่งรวมแล้วการโจมตีครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานประมาณ 54.6 ล้านคน ซึ่งจำแนกตามนี้

ข้อมูล ชื่อและนามสกุล, วันเกิด, SSN และข้อมูลใบขับขี่/บัตรประจำตัวของลูกค้า T-Mobile ในปัจจุบันจำนวน 13.1 ล้านบัญชี
ข้อมูล ชื่อและนามสกุล, วันเกิด, SSN และข้อมูลใบขับขี่/บัตรประจำตัวของลูกค้า T-Mobile ในอดีตจำนวน 40 ล้านบัญชี

ข้อมูล ลูกค้าเก่าของ T-Mobile ที่เปิดเผยชื่อลูกค้า หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และวันเกิดจำนวน 667,000 บัญชี

ข้อมูล ลูกค้าแบบเติมเงินของ T-Mobile ที่ใช้งานอยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และ PIN ของบัญชีจำนวน 850,000 บัญชี

ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับบัญชี Metro ของ T-Mobile ในปัจจุบันที่อาจรวมอยู่ด้วยจำนวน 52,000 บัญชี

ตามที่ผู้โจมตีระบุช่องโหว่ที่ผู้โจมตีใช้มาจาก Configuration บนอุปกรณ์ Access Point ที่ใช้สำหรับระบบทดสอบ โดยปัญหาจากการ Configuration นั้นทำให้ Access Point ตัวนี้ถูกเข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต แสดงว่าการโจมตีนี้ไม่ได้ใช้เทคนิคที่ซับซ้อน หรือเป็น Zero Day แต่เป็น T-Mobile เองที่พลาดเปิดประตูทิ้งไว้ และผู้โจมตีก็แค่หาประตูเจอเท่านั้นเอง

T-Mobile ได้บอกอีกว่าไม่พบการเข้าถึงข้อมูลการชำระเงิน หรือข้อมูลทางการเงิน แต่ก็แนะนำให้ลูกค้า T-Mobile ทุกคนระวังโดยให้ถือว่าข้อมูลของพวกเขารั่วไหลด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงให้ระวังข้อความ SMS หรือ อีเมลฟิชชิ่ง หากได้รับแล้ว อย่าคลิกลิงก์ใดๆ ที่อยู่ในข้อความเนื่องจากผู้โจมตีสามารถใช้ลิงก์เหล่านี้เพื่อรวบรวมข้อมูลจากลูกค้า T-Mobile ได้

ที่มา : Bleepingcomputer

แฮกเกอร์ทำการขู่เรียกค่าไถ่ฐานข้อมูล MongoDB จำนวน 23,000 เเห่งที่สามารถเข้าได้ถึงจากอินเตอร์เน็ตโดยไม่ใช้รหัสผ่าน

แฮกเกอร์ทำการอัปโหลดโน๊ตเรียกค่าไถ่บนฐานข้อมูล MongoDB จำนวน 22,900 แห่งที่สามารถเข้าได้ถึงจากอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่งคิดเป็นจำนวนประมาณ 47% ของฐานข้อมูล MongoDB ที่พบการเข้าถึงได้จากอินเตอร์เน็ต

Victor Gevers นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก GDI Foundation ได้กล่าวว่าการข่มขู่เรียกค่าไถ่นั้นเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์จะทำการใช้สคริปต์ในการค้นหาและเพื่อเเสกนฐานข้อมูล MongoDB ที่ทำการตั้งค่าผิดพลาด หลังจากเจอเป้าหมายกลุ่มแฮกเกอร์จะทำการทิ้งโน๊ตเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 0.015 bitcoin หรือ ประมาณ 4,358 บาท โดยให้เวลาจ่ายค่าไถ่เป็นเวลา 2 วัน ถ้าเกิดเหยื่อไม่ทำการจ่ายเงินกลุ่มแฮกเกอร์จะทำการส่งเรื่องว่าเกิดข้อมูลรั่วไหลต่อหน่วยงาน General Data Protection Regulation (GDPR) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูเเลและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสหภาพยุโรป

ข้อเเนะนำ
ผู้ดูเเลระบบควรทำการตรวจสอบฐานข้อมูลของท่าน ว่าสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและมีการใช้รหัสผ่านหรือไม่ เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีใช้ประโยชน์จากการตั้งค่าที่ผิดพลาดเข้าถึงฐานข้อมูล

ที่มา: zdnet