กลุ่มแฮกเกอร์ FIN7 ใช้เอกสารอันตรายที่หลอกว่าเป็น ‘Windows 11 Alpha’ เพื่อวาง JavaScript Backdoor

การโจมตีจะเริ่มต้นด้วยฟิชชิ่งอีเมล หรือแคมเปญสเปียร์ฟิชชิ่งที่มีเอกสาร Microsoft Word ที่เป็นอันตราย (.doc) พร้อมด้วยรูปภาพหลอกลวงที่ระบุว่าเป็น Windows 11 Alpha

เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันการแก้ไขเนื้อหา (Enable Editing and Content) ก็จะเข้าสู่กระบวนการติดตั้ง โดยไฟล์ที่ฝังอยู่กับรูปภาพนั้นคือ VBA macro เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานเนื้อหา VBA macro ก็จะทำงานทันที

VBA macro ประกอบไปด้วยข้อมูลขยะมากมาย เป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อขัดขวางการวิเคราะห์ข้อมูล เมื่อดึงข้อมูลขยะออกแล้วจะเหลือเพียง VBA macro เมื่อวิเคราะห์ JavaScript เพิ่มเติมนักวิจัยได้พบว่ามี Strings ที่ซับซ้อนควบคู่ไปกับฟังก์ชันการถอดรหัสที่ซับซ้อน

นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญนี้ สั่งให้การโจมตีนี้ไม่ทำงานสำหรับบางประเทศ ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน ซอร์เบีย สโลวีเนีย เอสโตเนีย ซึ่งหากตรวจพบภาษาเหล่านี้ จะเรียกใช้ฟังก์ชัน me2XKr เพื่อหยุดการทำงาน

กลุ่ม FIN7 จะมุ่งเป้าการโจมตีไปที่ ภาคโทรคมนาคม การศึกษา การค้าปลีก การเงิน และการบริการในสหรัฐฯ ผ่านการโจมตีที่สร้างขึ้นอย่างตั้งใจ

นอกจากนี้ FIN7 ยังหาวิธีการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ และบังคับใช้กฎหมายเพื่อเอาผิดพวกเขา โดยการใช้เทคนิคขั้นสูง และแปลกใหม่เพื่อขัดขวางการตรวจจับอยู่ตลอดเวลา

ในบางครั้งพบว่ากลุ่มนี้เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Carbanak และมีการเพิ่มกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่มของ FIN7 สามารถขยายผลกระทบของการโจมตีได้ ส่งผลให้แฮกเกอร์กลุ่มนี้มีความได้เปรียบในการแข่งขันกับกลุ่มอื่น ๆ และยังสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลายได้

แม้ว่า FIN7 จะมีเทคนิคที่โดดเด่นในการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตจำนวนมาก แต่ความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เพราะในขณะที่ปัจจุบันมีการเข้ารหัสแบบ end-to-end encryption (E2EE) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โจมตี หรือแฮกเกอร์ได้ข้อมูลบัตรเครดิตไปได้โดยง่าย พวกเขาจึงหันไปโจมตีแผนกการเงินขององค์กรเป้าหมายแทน

จากการวิเคราะห์ของ Anomali Threat Research ที่ลงไว้เมื่อ 2 กันยายน พ.ศ. 2564 กล่าวว่า "การกำหนดเป้าหมายเฉพาะของโดเมน Clearmind ดูจะเป็นวิธีการทำงานที่ FIN7 ต้องการ" "เป้าหมายของกลุ่มคือการใช้แบ็คดอร์ในรูปแบบ JavaScript ที่คาดว่า FIN7 น่าจะใช้มาตั้งแต่ปี 2561

ที่มา : ehackingnews