Critical Vulnerability in VPN Exposes User’s Real IP Address to Attacker

นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Perfect Privacy ได้ออกมาประกาศค้นพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงบนระบบเครือข่าย VPN ที่ช่วยให้แฮ็คเกอร์สามารถเข้าถึง IP จริงของผู้ใช้งานในระบบได้ ซึ่งจากการทดสอบบริการ VPN ชื่อดัง 9 เครือข่าย พบว่า มีถึง 5 เครือข่ายที่เสี่ยงถูกแฮ็คเกอร์ขโมยข้อมูล IP ของผู้ใช้บริการ

การจะแฮ็คหมายเลข IP ของผู้ใช้ผ่านช่องโหว่ดังกล่าว จำเป็นต้องเคลียร์เงื่อนไขพิเศษหลายรายการ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยระบุว่า ถ้าผู้ให้บริการ VPN เปิดใช้งาน Port Forwarding ( ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิด ) บนชื่อบัญชีของผู้ใช้ และแฮ็คเกอร์รู้หมายเลข IP ปลายทางของการทำ VPN จะทำให้แฮ็คเกอร์สามารถสืบกลับไปหา IP ต้นทางซึ่งเป็น IP จริงของผู้ใช้ได้ทันที

การสืบหมายเลข IP จริงจาก IP ปลายทางหลัง VPN
สำหรับแฮ็คเกอร์แล้ว IP ปลายทางหลังจาก VPN นั้นหาได้ง่ายมากผ่านทาง Public IRC, การเชื่อมต่อ Torrent หรือจะทำ Site Hijacking ก็ได้ เช่น หลอกล่อให้ผู้ใช้งานเข้าไปยังเว็บไซต์ที่ถูกไฮแจ็ค ก็สามารถได้หมายเลข IP ปลายทางทันที ซึ่งเมื่อแฮ็คเกอร์ได้หมายเลข IP นี้มาแล้ว แฮ็คเกอร์จำเป็นต้องมีชื่อบัญชีบนบริการ VPN เช่นเดียวกับของผู้ใช้เพื่อใช้สืบกลับไปหา IP จริง หลังจากนั้น แฮ็คเกอร์สามารถทำให้ผู้ใช้ VPN เข้าถึง Resource บน VPN Server เครื่องเดียวกับของตนได้ แฮ็คเกอร์ก็จะทราบหมายเลข IP จริงของผู้ใช้ผ่านทาง Routing Table ภายในและการตั้งค่า Port Forwarding ทันที

สำหรับผู้ที่ใช้บริการ OpenVPN, PPTP หรือ IPSec อยู่ ต่างได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้ทั้งสิ้น เนื่องจากบริการเหล่านี้ต่างวางโครงสร้างอยู่บน OSI Model และช่องโหว่ที่ค้นพบอยู่บน Layer ที่ต่ำกว่า ซึ่งทีมนักวิจัยให้คำแนะนำ ดังนี้

ใช้หมายเลข IP หลายๆ หมายเลข
เปิดการเชื่อมต่อที่เข้ามาที่ IP1 และออกไปที่ IP2 – IPx
ทำ Port Forwarding ที่ IP2 – IPx แทนที่จะเป็น IP1
อย่าใช้ Man-in-the-Middle IP สำหรับการทำ Port Forwarding

ที่มา : HACKREAD