กลุ่ม Black Basta ransomware ทำรายได้จากการเรียกค่าไถ่กว่า 100 ล้านดอลลาร์

กลุ่ม Black Basta ransomware จากรัสเซีย กวาดรายได้จากการเรียกค่าไถ่ไปแล้วอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ จากเหยื่อมากกว่า 90 รายที่ยอมจ่ายค่าไถ่ นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 2022 (more…)

Ramsomware Group REvil จากรัสเซียกลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากหายไป 2 เดือน

 

 

 

 

 

 

 

 

แฮ็กเกอร์ผู้พัฒนา REvil ransomware-as-a-service (RaaS) กลับมามีปฏิบัติการอีกครั้งหลังจากหายไปถึง 2 เดือน จากครั้งล่าสุดที่มีการโจมตีผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างบริษัท Kaseya เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา

Portals ของ Dark Web สองแห่ง รวมถึง "Happy Blog" เว็ปไซต์ที่ใช้สำหรับแจ้งข้อมูลที่รั่วไหลออกมา เว็ปไซต์การชำระเงิน และเจรจาค่าไถ่ได้กลับมาออนไลน์อีกครั้ง โดยมีข้อมูลผู้เคราะห์ร้ายรายล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็น 5 วันก่อนที่ไซต์ดังกล่าวจะปิดตัวลงอย่างลึกลับในวันที่ 13 กรกฎาคม และยังไม่แน่ชัดว่า REvil กลับมาในปฏิบัติการ หรือว่าจะเปิดตัวการโจมตีครั้งใหม่

"โชคไม่ดีเลยที่ Happy Blog กลับมาออนไลน์แล้ว" นักวิจัยด้านภัยคุกคามของ Emsisoft นาม Erett Callow ทวีตไว้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนต่อมาหลังจากการโจมตีด้วย Ransomware ด้วยวิธีการ Supply Chain Attack โดยมุ่งเป้าไปที่ Kaseya ซึ่งเห็นกลุ่มผู้โจมตีเข้ารหัสผู้ให้บริการ (MSPs) ราว 60 ราย และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 1500 แห่งโดยใช้ช่องโหว่ zero-day ในซอฟต์แวร์การจัดการระยะไกล Kaseya VSA

ในปลายเดือนพฤษาคม REvil ยังเป็นผู้นำในการโจมตี JBS ผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย ทำให้บริษัทต้องจ่ายเงินค่าไถ่ 11 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้โจมตีเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

หลังเหตุการณ์การถูกโจมตี มีการตรวจสอบ และกดดันอย่างหนักจากหลายๆหน่วยงานทั่วโลกเพื่อจัดการกับวิกฤต ramsomware กลุ่มแฮ็กเกอร์ได้ปิดตัว Dark Web ลง ซึ่งคาดว่าอาจจะหยุดดำเนินการชั่วคราวโดยมีเป้าหมายเพื่อรีแบรนด์ภายใต้ตัวตนใหม่เพื่อทำให้เป็นที่สนใจน้อยลง

REvil หรือที่รู้จักกันในนาม Sodinokibi กลายเป็น ransomware สายพันธุ์ที่พบการรายงานบ่อยที่สุดอันดับ 5 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ซึ่งคิดเป็น 4.60% ของการโจมตีทั้งหมดในไตรมาสนี้ ตามสถิติที่รวบรวมโดย Emsisoft

ทีมา : thehackernews.

กลุ่ม Ransomware วางแผนกลยุทธ์กดดันเหยื่อรูปแบบใหม่ โดยการโทรหาพันธมิตรทางธุรกิจของเหยื่อเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตี

นักวิจัยด้านความปลอดภัย "3xp0rt" ได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของกลุ่ม REvil ransomware ซึ่งได้ประกาศถึงการนำกลยุทธ์ใหม่ที่ใช้บริษัทภายในเครือของผู้ที่ติดแรนซัมแวร์เพื่อกดดันผู้ที่ตกเป็นเหยื่อโดยใช้การโจมตี DDoS และการโทรไปยังนักข่าวและพันธมิตรทางธุรกิจของเหยื่อเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้น เพื่อกดดันให้เหยื่อยอมจ่ายเงิน

กลุ่ม REvil ransomware หรือที่เรียกว่า Sodinokibi เป็นกลุ่มผู้ให้บริการแรนซัมแวร์หรือ Ransomware-as-a-service (RaaS) ซึ่งภายในกลุ่มจะมีบริษัทที่รับให้บริการบุกรุกเครือข่ายขององค์กรที่ตกเป็นเป้าหมายและทำการติดตั้งแรนซัมแวร์ลงไปภายในเครือข่ายเพื่อทำการเรียกค่าไถ่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

กลุ่ม REvil ransomware ได้มีการประกาศในเว็บบอร์ดใต้ดินเพื่อหาผู้ที่สามารถทำการโจมตีแบบ DDoS ได้เพื่อเข้าร่วมทีมขู่กรรโชก รวมไปถึงผู้ที่จะทำหน้าที่ติดต่อ เปิดเผยและข่มขู่หากบริษัทซึ่งโดนแรนซัมแวร์ไม่ยอมออกมายอมรับและจ่ายค่าไถ่

นอกจากการโทรเพื่อกดดันเหยื่อแล้ว REvil ยังให้ทำการโจมตี DDoS ไปยัง Layer 3 และ Layer 7 ของบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อเพื่อสร้างแรงกดดัน โดยทั่วไปการโจมตี DDoS Layer 3 มักใช้เพื่อจำกัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ในทางตรงกันข้ามกลุ่มแรนซัมแวร์จะใช้การโจมตี DDoS แบบ Layer 7 เพื่อทำให้แอปพลิเคชันของเหยื่อที่สามารถเข้าถึงได้จากสาธารณะเช่นเว็บเซิร์ฟเวอร์หยุดให้บริการ

ทั้งนี้ผู้ใช้ควรมีความระมัดระวังในการใช้งานอีเมลหรือการใช้งานการเข้าเยื่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักและไม่ควรทำการดาวน์โหลดไฟล์ใด ๆ จากอีเมล์หรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักเพื่อเป็นการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของแรนซัมแวร์

ที่มา: bleepingcomputer