FujiFilm กำลังตรวจสอบการถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ และได้ดำเนินการปิดเครือข่ายบางส่วนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย

FujiFilm หรือที่รู้จักในชื่อ Fuji เป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่นที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเริ่มต้นบริษัท Fuji เป็นผู้จัดจำหน่ายฟิล์ม และกล้อง ภายหลังจากที่บริษัทเติบโตขึ้นก็มีการทำธุรกิจทางด้านยา อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องพิมพ์ รวมไปถึงกล้องดิจิตอลในปัจจุบันด้วย โดย Fuji เป็นบริษัทที่ทำรายได้ถึง 20.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 และมีพนักงานมากถึง 37,151 คนทั่วโลก

วันที่ 2/6/21 FUJIFILM ประกาศว่าสำนักงานใหญ่ในโตเกียวถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ในวันอังคารที่ 1/6/21 และกำลังดำเนินการตรวจสอบการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากภายนอกบริษัท มีการปิดเครือข่ายบางส่วน และตัดการเชื่อมต่อจากภายนอก โดยมีการประสานงานไปยังสาขาต่าง ๆ ทั่วโลก

นอกจากนี้ทาง FUJIFILM USA ได้ประกาศบนเว็บไซต์ โดยระบุว่าเนื่องจากระบบเครือข่ายบางส่วนกำลังประสบปัญหา ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบอีเมลและโทรศัพท์

FUJIFILM ยังไม่ได้มีการระบุถึงกลุ่มแรนซัมแวร์ที่ทำการโจมตี แต่ทาง Vitali Kremez ซีอีโอของ Advanced Intel ได้บอกกับแหล่งข่าว BleepingComputer ว่า FUJIFILM พบการติดโทรจัน Qbot เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงการโจมตีในครั้งนี้และปัจจุบันกลุ่มมัลแวร์ Qbot มีการทำงานร่วมกับกลุ่มแรนซัมแวร์ REvil และในอดีตเคยร่วมมือกับกลุ่มแรนซัมแวร์ ProLock และ Egregor อีกด้วย

แม้ว่าแรนซัมแวร์จะถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้ การโจมตีบริษัท Colonial Pipeline ท่อส่งเชื้อเพลิงที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และบริษัท JBS ผู้ผลิตเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้การโจมตีนี้กลับได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อแนะนำนโยบายและแนวทางในการต่อสู้กับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : bleepingcomputer