สหรัฐฯ ยึดคริปโต 1 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มแรนซัมแวร์ BlackSuit หลังแกะรอยได้จากการทำธุรกรรมออนไลน์

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ได้ยึดเงินดิจิทัล และทรัพย์สินดิจิทัลจากกลุ่มแรนซัมแวร์ BlackSuit เป็นมูลค่า 1,091,453 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2024

เจ้าหน้าที่สามารถติดตาม และระงับคริปโตจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ที่กลุ่มแรนซัมแวร์ BlackSuit พยายามเคลื่อนย้ายระหว่างบัญชีแลกเปลี่ยนเพื่อซ่อนร่องรอยการทำธุรกรรมได้สำเร็จ การดำเนินการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน และหลักฐานที่สำนักงานอัยการสหรัฐฯ เขตตะวันออกของเวอร์จิเนียรวบรวมไว้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2024

เงินที่ถูกยึดนี้เป็นส่วนหนึ่งของค่าไถ่ที่ถูกจ่ายไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2023 เพื่อให้ได้เครื่องมือถอดรหัสข้อมูล โดยเหยื่อที่ไม่เปิดเผยชื่อได้จ่ายเงิน 49.3 บิตคอยน์ ซึ่งขณะนั้นมีมูลค่าประมาณ 1,445,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกลุ่มแรนซัมแวร์

การยึดทรัพย์ครั้งนี้ตามมาหลังจากการยึดเว็บไซต์เรียกค่าไถ่ BlackSuit บนดาร์กเว็บ โดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ 'Operation Checkmate' ระหว่างประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มแรนซัมแวร์ BlackSuit, Royal, Quantum และแพลตฟอร์ม Chaos

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กลุ่มแรนซัมแวร์ Royal และ BlackSuit มีส่วนรับผิดชอบต่อการโจมตีที่ประสบความสำเร็จ 450 ครั้งในสหรัฐฯ โดยมุ่งเป้าไปที่องค์กรต่าง ๆ ในภาคส่วนสาธารณสุข, การศึกษา, รัฐบาล, พลังงาน และความปลอดภัยสาธารณะ

สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า "เมื่อรวมกัน กลุ่มเหล่านี้ได้รับเงินค่าไถ่มากกว่า 370 ล้านดอลลาร์ จากการประเมินมูลค่าของคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบัน" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสียหายทางการเงินในระดับมหาศาลที่กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เหล่านี้ได้ก่อขึ้น

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม สำนักงาน FBI เมืองดัลลัสประกาศการยึดบิตคอยน์จำนวน 20 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกระเป๋าเงินคริปโตที่เชื่อมโยงกับสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มแรนซัมแวร์ Chaos

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องทางแพ่งต่อศาลเพื่อขอให้ริบทรัพย์สินที่ FBI ยึดมาได้ การยึดทรัพย์สินที่ได้จากอาชญากรรมเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการต่อสู้กับแรนซัมแวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้กระทำผิด และเครือข่ายยังไม่ถูกจับกุม และยังคงสามารถนำเงินเหล่านั้นไปใช้ในการฟื้นฟูระบบ หรือดึงดูดสมาชิกใหม่เข้าสู่ขบวนการได้

ที่มา : bleepingcomputer