การอัปเดตความปลอดภัยของ Windows Server ประจำเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อ DHCP

Microsoft รับทราบปัญหาใหม่ที่เกิดจากการอัปเดตความปลอดภัยในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งส่งผลให้ service DHCP บน Windows Server บางระบบหยุดทำงาน

บนระบบ Windows Server ในส่วนของ Service Dynamic Host Configuration Protocol (DHCP) Server จะทำหน้าที่ในการแจกจ่าย IP Address และการตั้งค่าเครือข่ายอื่น ๆ ให้กับอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดภาระการจัดการเครือข่าย และทำให้การกำหนดค่า IP Address ในเครือข่าย Windows มีความเสถียร และน่าเชื่อถือ

ในสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา DHCP ที่เกิดขึ้น ทาง Microsoft รับทราบ และยืนยันว่าเกิดปัญหาที่ทำให้การต่ออายุ (renew) ของ IP Address แบบ Unicast ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องกับอุปกรณ์ในเครือข่าย ซึ่งเป็นปัญหาที่ตรวจพบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยทาง Microsoft ระบุว่า การอัปเดตที่เพิ่มเข้าไปในคำแนะนำด้านความปลอดภัยที่ออกใน Patch Tuesday ของเดือนนี้ DHCP Server service อาจหยุดทำงานเป็นระยะ ๆ หลังจากติดตั้งการอัปเดตความปลอดภัยนี้ ซึ่งปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการต่ออายุ (renew) IP ของอุปกรณ์ clients

รายชื่อเวอร์ชัน Windows ที่ได้รับผลกระทบ และการอัปเดตที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว ได้แก่

  • Windows Server 2016 (KB5061010)
  • Windows Server 2019 (KB5060531)
  • Windows Server 2022 (KB5060526)
  • Windows Server 2025 (KB5060842)

Microsoft ระบุเพิ่มเติมว่า กำลังดำเนินตรวสอบเพื่อออกแนวทางแก้ไขในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อพร้อมใช้งาน

ใน Patch Tuesday ของเดือนนี้ Microsoft ยังได้แก้ไขปัญหาอีกกรณีหนึ่งที่ทำให้แอปพลิเคชัน หรือบริการบางอย่างหยุดทำงาน หลังจากที่ Domain Controller ของ Windows Server 2025 บางเครื่องไม่สามารถเชื่อมต่อได้หลังจากการรีสตาร์ตเครื่อง

การอัปเดตสะสมประจำเดือนมิถุนายน 2025 ยังได้แก้ไขปัญหาการยืนยันตัวตนบน Domain Controller ของ Windows Server ที่เกิดขึ้นหลังจากติดตั้งอัปเดตความปลอดภัยในเดือนเมษายน 2025

ในเดือนพฤษภาคม Microsoft ได้ออกอัปเดตนอกกำหนดการ (Out-of-Band Updates) เพื่อแก้ไข bug ที่ทำให้ Hyper-V virtual machines บางเครื่องที่ใช้ Windows 10, Windows 11 และ Windows Server รีสตาร์ต หรือหยุดทำงานโดยไม่คาดคิด

หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตฉุกเฉินอีกชุดหนึ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำให้ Windows Container ไม่สามารถทำงานได้ บนระบบ Windows Server 2019, Windows Server 2022 และ Windows Server 2025

โดยปัญหาการเริ่มต้น Windows Container ที่เกิดขึ้นนี้ จะส่งผลเฉพาะกับ Container ที่ทำงานในโหมด Hyper-V Isolation เท่านั้น ซึ่งเป็นโหมดที่อนุญาตให้มีการรัน Container หลายตัวพร้อมกันบน Windows Host เดียวกัน โดยแต่ละตัวจะทำงานใน Virtual Machine แยกกัน

ที่มา : bleepingcomputer