Randstorm Exploit ทำให้ Bitcoin Wallets ที่สร้างขึ้นระหว่างปี 2011-2015 เสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก

Bitcoin wallets ที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 2011-2015 มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Randstorm ซึ่งทำให้สามารถกู้คืนรหัสผ่าน และเข้าถึงข้อมูลใน wallets ได้บนแพลตฟอร์ม blockchain หลายแห่ง

ตามรายงานของ Unciphered ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Randstorm() ถูกสร้างขึ้นเพื่ออธิบายชุดของช่องโหว่, design decisions และการเปลี่ยนแปลง API เมื่อนำมารวมกันแล้วจะลดคุณภาพของ random numbers ที่สร้างโดยเว็บเบราเซอร์ในช่วงปี 2011-2015

จำนวนบิตคอยน์ประมาณ 1.4 ล้านบิตคอยน์ที่ถูกจัดเก็บอยู่ใน wallets ที่สร้างด้วย cryptographic keys ที่คาดเดาได้ง่าย โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบว่า wallets ของตนมีความเสี่ยงหรือไม่ได้ที่ keybleed

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกู้คืน cryptocurrency ระบุว่า ได้ค้นพบปัญหานี้อีกครั้งในเดือนมกราคม 2022 ขณะที่กำลังทำการตรวจสอบให้กับลูกค้าที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกล็อคจาก Blockchain.com wallet ปัญหานี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นครั้งแรกในปี 2018 โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า "ketamine"

จุดสำคัญของช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ BitcoinJS ซึ่งเป็นแพ็คเกจ JavaScript โอเพนซอร์สที่ใช้สำหรับพัฒนาแอพพลิเคชัน cryptocurrency wallet บนเบราว์เซอร์

โดยเฉพาะ Randstorm มีต้นต่อมาจากการใช้ฟังก์ชัน SecureRandom() ของแพ็คเกจในไลบรารี JSBN javascript พร้อมกับช่องโหว่ด้านการเข้ารหัสที่เกิดขึ้น ในการดำเนินการฟังก์ชัน Math.random() ของเว็บเบราว์เซอร์ ทำให้สามารถสร้าง Math.random() function ได้ โดย BitcoinJS ยกเลิกการใช้ JSBN ในเดือนมีนาคม 2014

ดังนั้นปัญหานี้ อาจนำไปสู่การทำ brute-force attacks และกู้คืน private keys ของ wallet ที่สร้างขึ้นด้วยไลบรารี BitcoinJS ซึ่ง wallet ที่ง่ายที่สุดในการ crack คือ wallet ที่สร้างขึ้นก่อนเดือนมีนาคม 2012

การค้นพบครั้งนี้ทำให้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับพฤติกรรมของ open-source dependencies และวิธีการที่ช่องโหว่ในไลบรารีพื้นฐานเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงด้าน cascading supply chain ได้ เหมือนกับที่ได้เปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ในกรณีของ Apache Log4j ในช่วงปลายปี 2021

Unciphered ระบุว่า ช่องโหว่นี้ถูกนำมาใส่ใน Wallet ที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์อยู่แล้ว และจะอยู่ตลอดไปจนกว่าจะย้ายเงินไปยัง wallet ใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยซอฟต์แวร์ตัวใหม่

ที่มา : thehackernews