BetterHelp ยอมชดใช้ $7.8 ล้านเหรียญดอลลาร์ให้ผู้ใช้งานกว่า 800,000 ราย ในข้อตกลงการนำข้อมูลทางการแพทย์ไปใช้งาน

BetterHelp ตกลงรับผิดชอบชดใช้กว่า $7.8 ล้านเหรียญ ในข้อตกลงกับคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (U.S. Federal Trade Commission - FTC) จากข้อกล่าวหาว่ามีการนำข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ใช้งานไปใช้ผิดประเภท พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลทางแพทย์การของผู้ใช้งานเพื่อการโฆษณา

BetterHelp ก่อตั้งเมื่อปี 2013 เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจากการรักษาบำบัดดั้งเดิมแบบเห็นหน้า โดยเป็นแพลตฟอร์มให้บริการด้านการรักษาสุขภาพจิตเพื่อการปรึกษาโดยตรงกับนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตผ่านทางข้อความ, live chat, โทรศัพท์ หรือวิดิโอได้ โดยที่ผู้ใช้งาน BetterHelp ส่วนใหญ่จะมีอาการซึมเศร้า, วิตกกังวล, ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ, การใช้สารเสพติด หรือการเสพติดต่าง ๆ

หลังจากการสอบสวนการจัดการข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการบำบัดแล้ว ทาง FTC เปิดเผยในเดือน มีนาคม 2023 ว่า บริการนี้จัดเก็บข้อมูลโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน, ผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง คนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนใช้บริการรับคำปรึกษาก็ตาม

BetterHelp ได้เผยแพร่ข้อมูลที่เก็บมาได้ให้กับ Facebook, Snapchat, Criteo และ Pinterest ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงที่อยู่อีเมล, ที่อยู่ IP, คำตอบจากแบบสอบถามสุขภาพเบื้องต้นในช่วงระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งมาพร้อมกับสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ส่วนบุคคลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ เช่น บริการให้คำปรึกษา

การร้องเรียนกล่าวหาว่ารายละเอียดถูกใช้เพื่อระบุผู้บริโภคที่มีความคล้ายคลึงกัน และเพื่อระบุเป้าหมายสำหรับการโฆษณาการบริการให้คำปรึกษาของ BetterHelp “ที่ช่วยให้บริษัทสามารถหารายได้จากการใช้จ่ายของผู้ใช้งานใหม่นับหมื่นรายซึ่งมีมูลค่ากว่าล้านดอลลาร์”

BetterHelp ตกลงกับข้อเสนอของ FTC สำหรับการชำระค่าปรับกว่า $7.8 ล้านดอลลาร์เพื่อชดใช้ให้กับผู้ใช้งานอันเนื่องมาจากการนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้งานเพื่อการโฆษณา

ผู้ใช้งานที่เข้าข่ายตรงตามเงื่อนไขคือผู้ที่สมัคร และชำระเงินสำหรับบริการ BetterHelp ในช่วงวันที่ 1 สิงหาคม 2017 ถึง 31 ธันวาคม 2020 ซึ่ง FTC ระบุว่ามีถึง 800,000 รายที่ตรงตามเงื่อนไข

โปรแกรมการคืนเงินนี้ รวมถึง MyTherapist, Teen Counseling, Faithful Counseling, Pride Counseling, iCounseling, Regain และ Terappeuta ซึ่งให้บริการภายใต้ BetterHelp

ผู้ใช้งานจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนถึงรายละเอียดในการคืนเงินจาก ‘Ankura Consulting’ ซึ่งเป็นตัวกลางในการจัดการการคืนเงินนี้ ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกวิธีการรับเงินได้หลายแบบ เช่น เช็ค, Zelle และ Paypal

การชำระค่าใช้จ่ายชดใช้ทั้งหมดจะถูกส่งไปยังผู้ใช้งานช่วงฤดูร้อนนี้ และผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์ต้องแจ้งช่องการการรับเงินผ่านทาง Ankura ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2024 นี้เท่านั้น

คำแนะนำ ควรมีการศึกษาเรื่องการบังคับใช้กฏหมายข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะเรื่องของการขอความยินยอม การนำข้อมูลไปใช้ การเผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ดังเช่นในข่าวได้

ที่มา : bleepingcomputer