บริษัทด้านความปลอดภัย Coveware ออกรายงานเกี่ยวกับ Ransomware ประจำ Q3 2020 เมื่อวานที่ผ่านมา โดยหนึ่งในประเด็นของรายงานที่น่าสนใจนั้นคือสถิติเกี่ยวกับกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ไม่รักษาคำพูดกับเหยื่อ ตัวอย่างการโป้ปดที่น่าสนใจมีดังนี้
- กลุ่ม REvil หรือ Sodinokibi มีการเรียกค่าเหยื่อรายเดิมซ้ำอีกครั้งหลังจากเหยื่อจ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้วหนึ่งอาทิตย์ โดยการใช้ข้อมูลจากข้อมูลชุดเดิม
- กลุ่ม Netwalker และ Mespinoza มีการปล่อยข้อมูลของเหยื่อแม้ว่าเหยื่อจะมีการจ่ายค่าไถ่เพื่อไม่ให้มีการปล่อยข้อมูล
- กลุ่ม Conti มีการลบไฟล์ปลอมโชว์เหยื่อหลังจากที่เหยื่อจ่ายค่าไถ่แล้ว โดยเก็บไฟล์จริงเอาไว้
ด้วยพฤติกรรมดังกล่าว Coveware จึงมีการเพิ่มคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อแจ้งให้ผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเหยื่อของกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ดังนี้
- ข้อมูลที่ถูกนำไปโดยผู้โจมตีอาจไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าถูกลบจริงหลังจากมีการจ่ายค่าไถ่แล้ว พึงระลึกไว้เสมอว่ากลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่อาจมีการแลกเปลี่ยน นำไปขายต่อหรือถือครองข้อมูลเดิมไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ซ้ำ
- ข้อมูลที่ถูกขโมยไปอาจถูกถือครองโดยบุคคลหลายกลุ่มและอาจไม่ได้รับความปลอดภัยอย่างเหมาะสม แม้กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่จะลบข้อมูลไปแล้วจริง ก็อาจมีการลักลอบเข้าถึงและทำสำเนาข้อมูลเก็บเอาไว้ได้โดยบุคคลที่สาม
- ข้อมูลที่ถูกขโมยไปอาจถูกโพสต์หรือถูกปล่อยสู่สาธารณะไม่ว่าจะได้ความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ในบางครั้งกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่อาจตั้งใจโพสต์ก่อนที่จะมีการเรียกค่าไถ่ด้วย
ไอ-ซีเคียวขอแนะนำให้ผู้อ่านพิจารณาข้อเท็จจริงด้านบนเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงแผนและแนวทางเพื่อรับมือและตอบสนองเหตุการณ์ความปลอดภัยจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา: bleepingcomputer
You must be logged in to post a comment.