ผลการสำรวจครึ่งปี 2020 พบกลุ่ม Ransomware ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ VPN และ RDP ทำการโจมตีองค์กรต่างๆ มากที่สุด

ransomware-istock.jpg

บริษัท Coveware, Emsisoft และ Recorded Future ได้ออกรายงานการจัดอันดับภัยคุกคามและช่องทางที่ถูกใช้โจมตีจากกลุ่ม Ransomware ซึ่งรายงานครึ่งปี 2020 ที่ผ่านมานั้นพบว่าช่องทางการโจมตีด้วย Remote Desktop Protocol (RDP), VPN และ Email phishing ยังได้รับความนิยมและถูกใช้อย่างเเพร่หลายและเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ Ransomware เพื่อใช้ในการโจมตีและหาประโยชน์ต่างๆ จากองค์กรที่ถูกบุกรุก

จากรายงานและการเก็บสถิติจาก Coveware และ Emsisoft พบว่า Remote Desktop Protocol (RDP) ถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งในการใช้เป็นช่องทางการบุกรุกของกลุ่มปฏิบัติการ Ransomware เนื่องจากการใช้งาน RDP นั้นถูกใช้งานอย่างกว้างขวางและเป็นช่องทางในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้โดยตรงและยังสามารถติดตั้ง Ransomware และมัลแวร์อื่น ๆ ได้อีกด้วย

อันดับที่สองที่พบว่าถูกใช้ในการบุกรุกนั้นคือการใช้งานช่องโหว่ต่างๆ ของ VPN นับตั้งแต่กลางปี 2019 ที่ผ่านมาพบว่ามีการเปิดเผยช่องโหว่ที่รุนแรงหลายอย่างในอุปกรณ์ VPN จากบริษัทชั้นนำในปัจจุบัน ได้แก่ Pulse Secure, Palo Alto Networks, Fortinet, Citrix, Secureworks และ F5 ซึ่งการที่ช่องโหว่ถูกทำการเปิดเผยและผู้ใช้งานไม่ทำการเเพตซ์ช่องโหว่ในอุปกรณ์ VPN นั้นทำให้กลุ่มปฏิบัติการ Ransomware ที่ตั้งเป้าหมายเพื่อทำการบุกรุกองค์กรต่างๆ เช่นกลุ่ม REvil (Sodinokibi), Black Kingdom, Ragnarok, DoppelPaymer, Maze, CLOP และ Nefilim นั้นได้ใช้มองว่าช่องโหว่เช่น CVE-2019-19781 (Citrix), CVE-2019-11510 (Pulse Secure VPN) ที่ไม่ได้รับการเเพตซ์เป็นจุดเริ่มต้นในการบุกรุกองค์กรต่างๆ เมื่อสามารถเข้าถึงภายในเครือข่ายที่บุกรุกแล้วกลุ่มปฏิบัติการ Ransomware จะทำการติดตั้ง Ransomware และมัลแวร์อื่น ๆ ที่ใช้ในการเข้ารหัสไฟล์ เพื่อใช้ในการข่มขู่องค์กรที่ตกเป็นเหยื่อต่อไป

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้เเนะนำให้ผู้ดูแลระบบตรวจเช็คการใช้งานเชื่อมต่อด้วย RDP และอุปกรณ์ VPN ว่าทำการเเพตซ์ซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือยังหรือถ้าต้องการใช้งาน RDP ควรใช้งานผ่าน VPN หรือหาซอฟต์แวร์ third party มาใช้งานเชื่อมต่อเเทนการเชื่อมต่อด้วย RDP โดยตรงผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและเพื่อเป็นการป้องกันผู้ประสงค์ร้ายทำการโจมตีระบบซึ่งจะเป็นการป้องกันความเสียหายจากการโจมตีและทรัพย์สินขององค์กร

ที่มา: zdnet.com