LastPass กำลังแจ้งเตือนลูกค้าว่าขณะนี้มีแคมเปญฟิชชิงที่ส่งอีเมลหลอกลวง โดยภายในอีเมลมีคำขอเข้าถึง password vaults ภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นขั้นตอนในกระบวนการสืบทอดบัญชี
กิจกรรมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นราวกลางเดือนตุลาคม โดยพบว่าโดเมน และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้โจมตีซึ่งมีแรงจูงใจทางด้านการเงินที่รู้จักกันในชื่อ CryptoChameleon (UNC5356)
กลุ่ม CryptoChameleon ใช้ชุดเครื่องมือฟิชชิงที่พัฒนาเฉพาะเพื่อขโมยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินคริปโตหลายแพลตฟอร์ม เช่น Binance, Coinbase, Kraken และ Gemini ผ่านหน้าเข้าสู่ระบบปลอมของบริการชื่อดังอย่าง Okta, Gmail, iCloud และ Outlook
ผู้ใช้ LastPass เคยถูกกลุ่มเดียวกันนี้โจมตีมาแล้วในเดือนเมษายน ปี 2024 แต่ดูเหมือนว่าแคมเปญล่าสุดจะมีความซับซ้อน และครอบคลุมมากกว่าเดิม โดยคราวนี้ยังขยายเป้าหมายไปถึง passkey อีกด้วย
อีเมลฟิชชิงที่ส่งถึงผู้ใช้ LastPass แอบอ้างว่ามีสมาชิกในครอบครัวร้องขอการเข้าถึง LastPass vault ของผู้ใช้ โดยอัปโหลด “ใบมรณบัตร” เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบคำขอ
กระบวนการสืบทอดสิทธิ์ของ LastPass เป็นฟีเจอร์การเข้าถึงฉุกเฉินที่อนุญาตให้บุคคลที่เจ้าของบัญชีกำหนดสามารถขอเข้าถึง password vault ของตนได้ในกรณีที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ
ปกติแล้วเมื่อมีการเปิดคำขอดังกล่าว เจ้าของบัญชีจะได้รับอีเมล และหลังจากระยะเวลารอสิ้นสุดลง ผู้ติดต่อจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโดยอัตโนมัติ
คำขอสืบทอดปลอมดังกล่าวถูกออกแบบให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นด้วยการใส่ หมายเลข Agent ID เพื่อสร้างความสมจริง เพื่อให้ผู้รับรีบดำเนินการยกเลิกคำขอนั้น หากตนเอง “ยังไม่เสียชีวิต” โดยคลิกที่ลิงก์ในอีเมล
อย่างไรก็ตาม ลิงก์นั้นจะนำเหยื่อไปยังเว็บไซต์ปลอม lastpassrecovery[.]com ซึ่งมีแบบฟอร์มเข้าสู่ระบบปลอม ซึ่งหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่าน master password ของตนลงไป
LastPass เปิดเผยว่า ในบางกรณี ผู้โจมตีได้โทรศัพท์หาผู้เสียหายโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท และหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์ฟิชชิงที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า
บริษัทระบุเพิ่มเติมว่า หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการโจมตีโดยกลุ่ม CryptoChameleon ที่มุ่งเป้าไปยังผู้ใช้ LastPass คือการใช้โดเมนฟิชชิงที่เน้นการขโมย passkey โดยเฉพาะ เช่น mypasskey[.]info และ passkeysetup[.]com ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการขโมยข้อมูล passkey ของเหยื่อ
ทั้งนี้ passkey เป็นมาตรฐานการยืนยันตัวตนแบบไม่ใช้รหัสผ่าน (passwordless authentication) ที่พัฒนาบนโปรโตคอล FIDO2 / WebAuthn โดยอาศัยระบบเข้ารหัสแบบ assymmetric แทนการใช้รหัสผ่านที่ต้องจดจำ
Password managers ยุคใหม่อย่าง LastPass, 1Password, Dashlane และ Bitwarden สามารถจัดเก็บ และซิงก์ passkey ข้ามอุปกรณ์ได้แล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเริ่มหันมาโจมตีพวกเขาโดยตรง
ในปี 2022 LastPass ประสบเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ เมื่อผู้โจมตีขโมยข้อมูลสำรองของ password vaults ที่เข้ารหัสไว้ เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมายในภายหลัง ส่งผลให้เกิดความสูญเสียสกุลเงินดิจิทัลราว 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา : bleepingcomputer.
